หญิงเลสเบียนมาเลเซียสองรายถูกเฆี่ยน หลังมีเซ็กส์กันซึ่งละเมิดกฎหมายชารีอะฮ์อันเข้มงวดของอิสลาม ทำให้นักกิจกรรมออกมาต่อต้านว่าเป็นการลงโทษที่ “ไร้มนุษยธรรมและเสื่อมถอย”
หญิงทั้งสองวัย 23 ปีและ 32 ปีแต่งกายในชุดสีขาวและสวมฮิญาบตามแบบมุสลิมถูกเฆี่ยน 6 ครั้งขณะที่พวกเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไร้พนักพิงในศาลชารีอะฮ์ โดยหญิงทั้งสองถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนเมษายนโดยเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายอิสลาม หลังจากที่ถูกพบอยู่บนรถในจัตุรัสในรัฐตรังกานู อันเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อนุรักษนิยมมากที่สุดในประเทศมาเลเซีย
ประเทศมาเลเซียมีกฎหมายสองระบบ โดยศาลอิสลามจะรับมือคดีที่เกี่ยวกับศาสนาและเรื่องในครอบครัวพลเมืองชาวมุสลิม รวมถึงคดีอย่างการคบชู้ด้วย
หญิงทั้งสองที่ไม่ถูกเปิดเผยตัวตนออกมาสารภาพผิดว่าละเมิดกฎหมายอิสลามจริงเมื่อเดือน และถูกตัดสินเฆี่ยนและปรับ 3,300 ริงกิต (ราว 26,000 บาท) โดยพวกเขาถูกเฆี่ยนในศาลชารีอะฮ์สูงสุดที่เมืองกัวลาตรังกานู เมืองหลวงของรัฐ
หญิงที่มีอายุน้อยกว่าร้องไห้ ส่วนรายที่อายุมากกว่าไม่แสดงท่าทีใด ๆ
ภาพ AFP
กลุ่มนักรณรงค์กล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงในประเทศมาเลเซียถูกเฆี่ยนในข้อหาละเมิดกฎหมายชารีอะฮ์ ซึ่งสั่งห้ามไม่ให้มีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน และพวกเขาก็กล่าวว่าคดีนี้เป็นการเน้นย้ำบรรยากาศที่ย่ำแย่สำหรับกลุ่มรักเพศเดียวกันในประเทศที่มีประชากรส่วนมากเป็นมุสลิม
กลุ่มองค์กรช่วยเหลือสตรี (Women’s Aid Organisation) ผู้สนับสนุนสิทธิของผู้หญิงกล่าวว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และกิจกรรมทางเพศระหว่างผู้ใหญ่ที่สมยอมกันสองคนไม่ควรเป็นอาชญากรรม และยิ่งไม่ต้องพูดการเฆี่ยนลงโทษเลย