นักวิจัยในออสเตรเลียพบเชื้อดื้อยาที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ “รุนแรง” หรือเสียชีวิตแพร่อยู่ในโรงพยาบาลทั่วโลก
ภาพ AFP
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งเมลเบิร์นค้นพบเชื้อดื้อยาที่แตกต่างกันสามชนิดในตัวอย่างที่เก็บจากโรงพยาบาลใน 10 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในยุโรปด้วย โดยเชื้อเหล่านั้นไม่สามารถยับยั้งได้ด้วยยาแผนปัจจุบันที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้
ภาพ Monkey Business Images / Shutterstock.com
เบน โฮว์เดน ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการสาธารณสุขแผนกวินิจฉัยจุลชีววิทยากล่าวว่า “เราเริ่มจากตัวอย่างในประเทศออสเตรเลีย แต่เริ่มเก็บจากที่ต่าง ๆ ทั่วโลกและพบว่าเชื้อนี้มีอยู่ในหลายประเทศและหลายสถาบันทั่วโลก” และเสริมว่า “ดูเหมือนว่ามันจะแพร่เชื้อออกไป”
เชื้อแบคทีเรียดื้อยาดังกล่าวหรือที่รู้จักกันในนามสแตฟิโลค็อกคัส อีพิเดอร์มิดิส หรือเอ็มอาร์เอสเอ เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พัฒนาจนเกิดอาการดื้อยา โดยแบคทีเรียชนิดนี้พบได้บนผิวหนังของมนุษย์ และมักจะทำให้ผู้สูงวัยหรือผู้ทำการผ่าตัดฝังวัสดุเทียมในร่างกายอย่างเช่นการใส่ท่อหรือเปลี่ยนข้อต่อกระดูกมีอาการติดเชื้อ
ภาพ Spotmatik Ltd / Shutterstock.comโฮว์เดนกล่าวว่า “การติดเชื้ออาจมีอันตรายถึงชีวิต แต่ส่วนมากผู้ป่วยก็จะป่วยมากอยู่แล้วในโรงพยาบาล… มันค่อนข้างยากที่จะจำกัดมันไปทั้งหมดและการติดเชื้อก็อาจร้ายแรง” โดยทีมของเขาได้ตรวจสอบตัวอย่างเชื้อเอส. อีพิเดอร์มิดิสที่เก็บจากโรงพยาบาล 78 แห่งทั่วโลก
ทีมวิจัยของโฮว์เดนพบว่าเชื้อบางสายพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของตนเองเล็กน้อยจึงไปต่อต้านยาปฏิชีวนะสองชนิดที่ใช้กันโดยทั่วไปมากที่สุด ซึ่งยาสองตัวนี้มักถูกใช้ควบคู่กันเพื่อรักษาอาการติดเชื้อในโรงพยาบาล และจีน ลี นักศึกษาระดับปริญญาเอกจากสถานบันโดเฮอร์ตีที่เมืองเมลเบิร์น ผู้ร่วมวิจัยก็พบว่ายาปฏิชีวนะสองตัวนี้ไม่ตรงกับเชื้อและก็ไม่มีใครคาดว่ายายาปฏิชีวนะจะใช้ไม่ได้ผลทั้งสองตัว
ภาพ hxdbzxy / Shutterstock.com
ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดหลายตัวมีราคาแพงหู่ฉี่ และบางตัวก็เป็นโทษด้วย นอกจากนี้ ทีมผู้อยู่เบื้องหลังการศึกษาก็กล่าวว่าการใช้ยาหลายชนิดในคราวเดียวเพื่อป้องกันอาจไม่ได้ผล โดยผู้วิจัยกล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าเชื้อดื้อยาแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะจำนวนมากในห้องดูแลผู้ป่วยหนัก (ไอซียู)
องค์การอนามัยโลกได้เตือนมาเป็นเวลานานแล้วเรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป ซึ่งทำให้เกิดแบคทีเรียดื้อยาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา