คืบหน้าคดีครูพละ รร.แห่งหนึ่งย่านคลองเตย ข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม. 3 และเคยข่มขืนรวมถึงกระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงอีกหลายคน ล่าสุดมีบทลงโทษเด็ดขาดออกมาแล้ว
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.61 นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวผลการดำเนินการทางวินัยของ นายทิมทอง ปัญญาอิน ข้าราชการครู โรงเรียนวัดสะพาน สำนักงานเขตคลองเตย โดยคณะกรรมการข้าราชการข้าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ ก.ก. ได้พิจารณาในการประชุมเมื่อวันที่ 28 ส.ค.61 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ ตามมติของคณะอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ ที่เสนอมาเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผลทันทีตามคำสั่งสำนักงานเขตคลองเตย ลงวันที่ 31 ส.ค.61 ซึ่งนายทิมทองได้เซ็นรับทราบและไม่ได้ไปสอนแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนจะแจ้งให้ผู้ปกครอง และนักเรียนทราบต่อไป ยอมรับว่าการพิจารณาล่าช้า เนื่องจากครั้งแรกที่ระบุเป็นการผิดวินัยไม่ร้ายแรง และมาสอบผิดวินัยร้ายแรงในภายหลัง จึงเสียเวลาในการพิจารณาตามขั้นตอนระเบียบราชการ จากนี้ไปหากมีเหตุการณ์ที่ส่อพฤติกรรมเช่นนี้ ให้ถือเป็นผิดวินัยร้ายแรงและสอบข้อเท็จจริงทันที
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯกทม.ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของโรงเรียน โดยเฉพาะนักเรียน ผู้อำนวยการเขต และผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องดูแลเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด ให้มีการประชุมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้รู้จักครูในแต่ละสถานศึกษาว่าเป็นอย่างไรบ้าง โรงเรียนสังกัดกทม.มี 437 แห่ง มีครูทั้งหมดรวม 14,459 คน เป็นครูชาย 5,209 คน คิดเป็น 36% ครูหญิง 9,250 คน คิดเป็น 64% ต้องยอมรับว่าการดูแลให้ทุกคนอยู่ในภายใต้กฎเกณฑ์ของกทม.ทำได้ลำบาก ต้องให้ความรู้ อบรมครูมากขึ้น และจากนี้ไปจะให้ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องเข้าไปดูแลเด็กนักเรียนไม่ใช่ดูแลครู และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ซึ่งผู้บริหารกำลังหารือแนวทาง และหากผู้ปกครองหรือนักเรียนไม่กล้าแจ้งเรื่องที่ผู้อำนวยการโรงเรียน ให้แจ้งได้ที่ผู้อำนวยการเขตซึ่งจะเป็น ”ผู้พิทักษ์นักเรียน”
รองผู้ว่าฯกล่าวว่า ผู้ว่าฯให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมาก ได้ลงตรวจโรงเรียนกทม. ที่ผ่านมาพบทั้งดีและไม่ดี ก็ได้ให้ปรับปรุงให้ดี จากนี้ไปจะสุ่มตรวจอย่างเข้มงวด ขอให้ทุกโรงเรียนของกทม.ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกทม.หากลงไปตรวจพบไม่ตรงตามเกณฑ์ในเรื่องใดจะจัดการเด็ดขาด