กรณีจับแม่ค้าข้าวหมากทำกลุ้ม ยายวัย 66 ปี กลัวข่าวลือขายข้าวหมากถูกจับ ปั่นจักรยานมาปรึกษาตำรวจ ตำรวจชี้แจงและเห็นใจให้เงินทุนช่วยเหลือติดกระเป๋า
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ สภ.เสม็ด น.ส.ทอง เนียมก้อน อายุ 66 ปี ชาว จ.ตาก ได้ขี่รถจักรยานมาพบกับ พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล ผกก.สภ.เสม็ด เพื่อปรึกษาหารือ เนื่องจากได้มีกระแสข่าวการจับกุมแม่ค้าขายข้าวหมากจึงเกิดความกลัว และหยุดขายมาแล้ว 3 วัน ทำให้ไม่มีรายได้ อีกทั้งยังต้องเลี้ยงพี่สาวป่วยติดเตียงอีกด้วย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่มีเงินใช้จ่าย
โดย น.ส.ทอง กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงดูพี่สาวซึ่งป่วยหนัก แต่มีอาชีพทำข้าวหมากขายมีรายวันละ 200-300 บาทเลี้ยงชีพ ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้เตือนมาว่าขายข้าวหมากอาจจะถูกตำรวจจับ ประกอบกับไม่เคยมีอาชีพอย่างอื่น หมักข้าวหมากขายอย่างเดียว ทุกวันนี้ไม่มีเงินซื้ออาหารกิน คนป่วยก็กินเก่งมีลูก 3 คน ก็ไม่ยอมเลี้ยงดู ทำให้เป็นภาระแก่ตน อีกทั้งยังขายข้าวหมากไม่ได้อีก จึงมาขอคำปรึกษาหารือ
ทางด้าน พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กล่าวว่า การขายข้าวหมาก หากมีทั้งเมล็ดข้าวอยู่ในห่อใบตองหรือใบบัวไม่มีความผิด ยกเว้นหากแยกน้ำมาขายจะเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติสรรพสามิต อาจจะถูกจับกุมดำเนินคดีได้ ซึ่งตำรวจสนับสนุนให้ทุกคนประกอบอาชีพโดยสุจริตอยู่แล้ว หากมีตำรวจคนใดไปข่มขู่ให้โทรศัพท์แจ้ง 191 หรือโทรศัพท์มาหาตนได้พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
หลังจากปรึกษาหารือเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.จักรพันธุ์ เห็นว่าไม่ได้ขายข้าวหมากมาหลายวัน จึงได้ควักเงินส่วนตัวช่วยเหลือไปจำนวนหนึ่ง น.ส.ทองปั่นจักรยานออกจากสถานีตำรวจไปด้วยความสบายใจ