รัฐบาลจีน อาจล้มเลิกนโยบายวางแผนครอบครัวที่จำกัดให้แต่ละครอบครัวมีบุตรได้ไม่เกิน 2 คน ท่ามกลางความวิตกกังวลกรณีประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อัตราการเกิดลดลง ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายวางแผนครอบครัวฉบับปัจจุบันนี้ คู่สามีภรรยาชาวจีนส่วนใหญ่ถูกจำกัดให้มีบุตรได้เพียง 2 คนเท่านั้น หลังจากการผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวในปี 2559
จีนบังคับใช้นโยบายมีลูกคนเดียวมาตั้งแต่ปี 2522 ต่อมาได้ก็เริ่มผ่อนปรนเรื่อย ๆ เนื่องจากอัตราเด็กเกิดใหม่ชะลอตัว ขณะที่ประชากรเข้าสู่วัยชราก็มากขึ้น ทำให้คนในวัยทำงานลดลงถึง 5.5 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555
ส่วนธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ภายในปี 2593 สัดส่วนประชากรจีนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีทั่วประเทศ จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 36.5 จากจำนวนประชากรประมาณ 1,400 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลที่น่าตกใจ โดยปัจจุบันนี้ หนุ่มสาวในจีนแต่งงานมีครอบครัวกันช้าลง หรือเมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็เลือกที่จะมีลูกเพียงคนเดียว หรือไม่มีลูก เพราะทุ่มเทเวลาในการทำงาน

นอกจากนี้ นโยบายวางแผนครอบครัวที่ผ่านมา ก็สร้างผลเสียต่อความสมดุลทางเพศ เพราะความปรารถนาที่จะได้บุตรชาย นำไปสู่การทำแท้ง และการฆ่าทารก เพื่อรับประกันว่า บุตรคนเดียวของครอบครัวจะต้องเป็นเพศชาย ซึ่งจากผลดังกล่าว ในปี 2559 จึงมีสัดส่วนของเพศชาย 1.15 คนต่อผู้หญิง 1 คน ในจีน ซึ่งเป็นสัดส่วนทางเพศที่ลักลั่นมากที่สุดของโลก