รพ.เอกชนดังยังเงียบ กรณีทำคลอดเด็กพิการ

2018-08-27 18:10:59

รพ.เอกชนดังยังเงียบ กรณีทำคลอดเด็กพิการ

Advertisement

จากกรณี น.ส.จิราภา เลิศแสวงกิจ คุณแม่มือใหม่ได้ร้องเรียนกับ นิว 18 ขอความเห็นใจ รพ.เอกชนชื่อดัง ร่วมรับผิดชอบ หลังอัลตราซาวด์ผิดพลาด เป็นเหตุให้ลูกอาการหนัก หัวโตและร่างกายผิดปกติหลายอย่าง ต้องจ่ายค่ารักษาตัวไปกว่า 5 ล้านบาท




ล่าสุดทีมข่าวนิว 18 ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เพื่อขอรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอพบคุณหมอผู้ตรวจและทำคลอดให้กับคุณแม่ท่านนี้ เพื่อขอคำชี้แจง ขอคำอธิบาย ว่า สาเหตุที่เกิดความผิดพลาดขึ้น เกิดจากปัจจัยใด



แต่ทางเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล อ้างว่า คุณหมอผู้รักษา ไม่มีคิวลงตรวจที่โรงพยาบาลในวันนี้ และหากทีมข่าวต้องการข้อมูลใด ให้ทำหนังสื่อเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง





สำหรับกรณีนี้ มีจุดเริ่มต้นจาก น.ส.จิราภา ได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา และเมื่ออายุครรภ์ครบ 3 เดือนได้มีการตรวจอัลตราซาวด์ครั้งแรก ซึ่งคุณแม่ได้เห็นถึงความผิดปกติศีรษะของน้องมีขนาดใหญ่จึงได้ทักท้วงหมอ แต่หมอยืนยันว่าไม่ผิดปกติใดๆ และไม่มีการติดตามอาการหรือเรียกเข้ามาตรวจเพิ่มเติม จนเมื่ออายุครรภ์ครบ 28 สัปดาห์ หมอตรวจพบว่าศีรษะน้องโตผิดปกติจริง จึงได้ออกเอกสารเพื่อส่งตรวจน้องไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ งพบว่าน้องมีน้ำในโพรงสมองทำให้ศรีษะมีขนาดใหญ่ และไม่มีนิ้วเท้าข้างซ้าย ก่อนส่งตัวกลับไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดิม โดยไม่มีการชี้แจงถึงสาเหตุใดๆ จนกระทั่งอายุครรภ์ที่ 39 สัปดาห์ หมอให้ทำการคลอดฉุกเฉินโดยเสียค่าใช้จ่ายในการทำคลอด 4 แสนบาท

ต่อมาภายหลังจากคลอดแล้ว พบว่าน้องมีอาการหยุดหายใจ จึงต้องนำตัวไปที่ห้องฉุกเฉิน ซึ่งสภาพร่างกายของน้องมีอาการผิดปกติหลายอย่าง เช่น ศรีษะมีขนาดใหญ่ ตาไม่กระพริบต้องหยอดตาตลอดเวลา คางสั้น เท้าทั้ง 2 ข้างผิดปกติ โดยไม่มีนิ้วเท้าข้างซ้าย ส่วนเท้าข้างขวามีเพียงนิ้วโป้งเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถหายใจเองได้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา



โดยทางหมอได้แจ้งเพียงว่า น้องมีอาการหนักจำเป็นต้องผ่าตัด และจนถึงปัจจุบันน้องอายุครบ 5 เดือน ยังไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท และ ยังเป็นหนี้โรงพยาบาล อยู่อีก 2.5 ล้านบาท



หลังจากนั้น ฝ่ายคุณแม่ได้มีการเจรจากับหมอเอกชนแห่งแรกที่ทำการตรวจอัลตราซาวด์และทำคลอด ในช่วงแรกมีการเจรจากันด้วยดีมาโดยตลอด โดยทางหมอยืนยันว่าจะให้การช่วยเหลือจนถึงที่สุด แต่จากการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางหมอบอกว่าจะช่วยเหลือเพียง 5 แสนบาท โดยให้เซ็นยินยอมว่าห้ามไม่ให้มีการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น

กระทั่งครั้งล่าสุด ทางโรงพยาบาล ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดพลาด และไม่ได้มีความประมาทในการตรวจ จึงไม่สามารถรับผิดชอบได้ ทั้งที่ขัดแจ้งกับข้อเท็จจริง ที่เราได้ทักท้วงมาโดยตลอด โดยจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ ต่อไป