นักเรียนหญิงถูกรุ่นพี่รุมตบนัวเนีย และถูกข่มขู่ห้ามบอกพ่อแม่ ไม่กล้าไปโรงเรียน แม่ร้องสื่อช่วยกระตุ้นทุกฝ่ายมาเคลียร์ หากแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็พร้อมที่จะย้ายโรงเรียน
ภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มนักเรียนรุมทำร้ายนักเรียนหญิงรุ่นน้อง จนได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัว โดยมีสาเหตุมาจากมองหน้าไม่พอใจ บริเวณสะพานซอย 26 บ้านเก่า หมู่ 6 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี นอกจากนี้ยังอ้างอีกว่าเป็นลูกทหาร หากไม่พอใจจะทำร้ายอีก ทำให้เด็กนักเรียนไม่กล้าไปโรงเรียน
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นางพัชรมน โพธิ์เมือง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 9 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ลูกสาวกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี และไปมีเรื่องกับกลุ่มนักเรียนหญิงรุ่นพี่ หลังจากนั้นได้ถูกรุมตบ ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า แขน ขา และลำตัวหลายแห่ง หลังจากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.พานทอง เพื่อให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย เนื่องจากอ้างว่าเป็นลูกทหาร จะจริงหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ลูกสาวไม่กล้าไปโรงเรียน ทำให้เสียการเรียน เพราะถูกข่มขู่หากพบจะทำร้ายร่างกายอีก ที่สำคัญกลุ่มนักเรียนหญิงดังกล่าวมีเรื่องในโรงเรียนหลายครั้งแล้ว ทางโรงเรียนได้แต่ทำทัณฑ์บนเท่านั้น การร้องเรียนในครั้งนี้อยากให้ทางตำรวจ ครู เข้ามาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ลูกสาวได้เรียนหนังสือ หากแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็พร้อมที่จะย้ายโรงเรียน
"ลูกสาวที่ถูกทำร้ายในครั้งนี้ เนื่องจากเพื่อนไปมีเรื่องกับกลุ่มนักเรียนดังกล่าว จึงได้ไปเป็นเพื่อนเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะลูกสาวรูปร่างคล้ายผู้ชาย ประกอบกับไปมองผ่านหน้าเท่านั้น และช่วงนั้นไม่ได้ใส่รองเท้า ก็ถูกหาเรื่องว่าถอดรองเท้าเตรียมหาเรื่อง พร้อมทั้งเข้ามารุมตบตี หากสู้ตัวต่อตัวก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่เข้ามารุมทำร้าย พร้อมทั้งข่มขู่ จนลูกสาวกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน แจ้งความกับตำรวจแล้วก็บอกว่ารอเคลียร์ ไม่รู้ว่าเรื่องจะจบเมื่อไหร่ จึงร้องเรียนสื่อ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เรื่องจบเร็วๆ ลูกสาวจะได้ไปเรียนหนังสือต่อ"
ลูกสาวของนางพัชรมน กล่าวว่า กลุ่มที่มีเรื่องนั้นตนไม่รู้จัก แค่ไปเป็นเพื่อนของเพื่อนเท่านั้น เมื่อกลุ่มนักเรียนหญิงรุ่นพี่เห็นว่าถอดรองเท้า จึงพูดว่าพร้อมตบหรือ หลังจากนั้นได้เข้ามาตบทันทีและได้รุมทำร้ายร่างกาย ส่วนที่กล่าวหาว่ามองหน้านั้น ก็มองธรรมดาเท่านั้น หลังจากถูกตบตีแล้วก็ถูกขู่อีกว่าอย่ากลับไปฟ้องแม่ และห้ามซ่าอีก
ต่อมาทางด้านนางพัชรมน และลูกสาวได้เดินทางเข้ากับ พ.ต.ท.นันทพนธ์ นาในบุญ สารวัตรเวร สภ.พานทองเพื่อเร่งรัดคดีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตำรวจรับปากว่าจะเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยโดยเร็ว