ตร.ยันไร้เหตุข่มขืนแหม่มอังกฤษ เตรียมหลักฐานเล่นงานเว็บเพจ

2018-08-27 12:00:41

ตร.ยันไร้เหตุข่มขืนแหม่มอังกฤษ  เตรียมหลักฐานเล่นงานเว็บเพจ

Advertisement

ตร.สุราษฎร์ธานี ยืนยันไร้เหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ เตรียมหาหลักฐานเล่นงานเว็บเพจ มีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

จากกรณีเว็บไซต์แห่งหนึ่งได้หยิบยกข่าวจาก "เดลี่เมล์" กรณีสาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนที่หาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวและข่มขืน เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง ใกล้กับจุดที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ นายเดวิด มิลเลอร์ และ ฮันนาห์ วิเทอร์ริดจ์ ถูกฆ่าข่มขืนเมื่อปี 2557 โดยนักท่องเที่ยวสาวได้ไปแจ้งความกับตำรวจเกาะพะงัน เเต่ตำรวจไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืนเพียงลงว่า โทรศัพท์ Iphone 7 กับเงินสด 3,000 บาทหาย 

พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี ได้เรียกประชุมด่วนติดตามกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ได้ให้ สภ.เกาะเต่า และ สภ.เกาะพะงัน เข้าร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดย พ.ต.อ.สถิต คงเนียน ผู้กำกับการ สภ.เกาะพะงัน รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.อิสเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ อายุ 20 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนชายชาวต่างชาติ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ทำโทรศัพท์มือถือ และ เงินสดจำนวน 3,000 บาท หายที่บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา และไม่ยืนยันว่าถูกโจรกรรม หรือ ทำหายเอง 




ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ทราบว่าผู้เสียหายจะต้องเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ แต่ น.ส.วิคตอเรีย อ้างว่าไม่สะดวก และไม่ประสงค์จะดำเนินคดี เพียงแต่ต้องการหลักฐานไปแจ้งเคลมกับประกันภัยเท่านั้น และยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกข่มขืน

ขณะที่ พ.ต.ท.พนา เสนาทิพย์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เกาะเต่า รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าของโฮสต์เทล พื้นที่หมู่ 1 ต.เกาะเต่า แจ้งว่า น.ส.วิคตอเรีย ได้ส่งข้อความมาแจ้งว่าขณะที่พักอยู่ที่เกาะเต่าได้ถูกคนร้ายข่มขืนและชิงโทรศัพท์มือถือไป และขอให้เจ้าของโฮสต์เทลรับผิดชอบ หลังรับแจ้งตำรวจเกาะเต่าได้เข้าตรวจสอบทันที รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ปรากฏว่าในช่วงเวลาที่ผู้เสียหายอ้างถึงนั้นทิ้งระยะห่างเกินไปทำให้ไม่มีภาพบันทึกไว้ และเมื่อจะสอบปากคำผู้เสียหายปรากฏว่าได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว



จากการตรวจสอบของพบว่า น.ส.วิคตอเรีย ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ทางด่านสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา แจ้งถิ่นที่อยู่ที่ ถ.พระอาทิตย์ ในเขต สน.ชนะสงคราม โดยกำหนดอยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 11 ส.ค. และพบว่าได้เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 ก.ค.

ทั้งนี้การตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีเหตุการณ์ตามที่ผู้เสียหาย และการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศ รวมถึงเพจบางเพจ ระบุไว้ ขณะนี้ได้รายงานข้อเท็จจริงเสนอไปยังผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายฝ่ายกฎหมายตรวจสอบที่มาไปของข่าว พบว่ามีเว็บไซต์แห่งหนึ่งซึ่งใช้ชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้นำเสนอข่าวในลักษณะไม่เป็นจริง เข้าข่ายนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป