นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวเสี่ยชูวงษ์ ทวงความคืบหน้ากองปราบปราม หลังคดียังไม่ถึงศาล
โดยนางวันเพ็ญ ระบุว่าสำนวนคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้น หลังอธิบดีอัยการสำนักงานอาญากรุงเทพใต้ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เรื่องจึงขึ้นสู่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งมีความเห็นแย้งว่าควรสั่งฟ้อง ทำให้ขณะนี้เรื่องจึงถูกเสนอถึงอัยการสูงสุดพิจารณา โดยยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม
ขณะที่คดีการเสียชีวิต ที่ สน.อุดมสุข ท้องที่เกิดเหตุ ได้โอนสำนวนคดีให้กองปราบปรามทำคดีต่อ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำสำนวนส่งฟ้องอัยการ แต่จนถึงขณะนี้อัยการก็ยังสั่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามทำการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าไปสู่กระบวนการของศาลแต่อย่างใด
นางวันเพ็ญยังมองว่า พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องหาในคดีทั้ง2คดี และเป็นอดีตพนักงานสอบสวน รู้ข้อกฎหมายดี แต่กลับไม่ไว้ใจและไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆในชั้นพนักงานสอบสวน แต่กลับไปร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการนั้นเป็นการประวิงเวลา ให้คดีขาดอายุความ
นอกจากนี้นางวันเพ็ญยังฝากถามถึงกระบวนการยุติธรรมว่า อัยการ ซึ่งเป็นทนายความของแผ่นดินขณะนี้ทำหน้าที่อะไรอยู่ ทำไมคดีผ่านไปกว่า2ปีถึงไม่ความคืบหน้า ทั้งที่ครอบครัวไม่เคยนิ่งนอนใจ และพยายามร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่างๆอยู่ตลอด ซึ่งกระบวนการนั้นทราบว่าสำนวนคดีการเสียชีวิตจะต้องถูกส่งไปให้กับอธิบดีอัยการกรุงเทพอาญา คนเดิม ที่เป็นผู้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีหุ้นของนายชูวงษ์ รวมถึงเป็นคนเดียวกับที่พิจารณาคดี ทายาทเครื่องดื่ม ที่ปล่อยให้ระยะเวลาของคดีเนิ่นนานอีกด้วย ทำให้ครอบครัวเกิดความกังวลใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่าหลังจากอัยการ ศาลจังหวัดพระโขนงสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติม ทางพนักงานสอบสวนก็นำกลับมาสอบเพิ่มก่อนส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว โดย ขณะนี้สำนวนคดีทั้ง2นั้น อยู่ในชั้นอัยการพิจารณาหมดแล้ว โดยขอให้เวลาอัยการพิจารณา1-2 เดือน และยืนยันว่าประเทศไทยยังมีความยุติธรรมอยู่