“ธนาธร”ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี รับฟังปัญหาราคายางพารา ปาล์ม มะพร้าวตกต่ำ หนุนเกษตรกรเป็นเจ้าของโรงงาน
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคใต้ ลงพื้นที่จ.สุราษฏ์ธานี เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากคนในพื้นที่ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องชาวสุราษฏ์ธานี
นายธนาธร สะท้อนว่า จากการสอบถามและรับฟังปัญหา ปัญหาหลักๆ ที่พี่น้องชาวสุราษฏ์ฯกำลังประสบ คือปัญหาราคาผลผลิตและพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นราคายางพารา ปาล์ม มะพร้าว หรือผลไม้หลากชนิด
“ปาล์ม 1 กิโลกรัมสามารถทำน้ำมันออกมาได่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนัก ซึ่งถ้าเกษตรกรนำไปขายจะได้ราคาแค่ราวๆ 3 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าแปรรูปสกัดออกมาจะสามารถขายได้ราวๆ 18-19 บาท ซึ่งโรงงานเหล่านี้ใช้เงินลงทุนไม่สูง เราสนับสนุนให้เกษตรกรเป็นเจ้าของโรงงานและมีรายได้เพิ่มขึ้น ผลผลิตเพิ่มขึ้น” ธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ผลผลิตยางพาราค่อนข้างแตกต่างจากปาล์มเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยผลิตยางเป็นจำนวนมหาศาลเมี่อเทียบกับประเทศอื่น เป็นที่น่าตกใจที่ราคายางตกต่ำลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา การแปรรูปเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหา การสร้างอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้ายางต้องผลักดันให้เกิดนวัตกรรมที่ทันสมัย และจำเป็นต้องให้คนไทยเป็นเจ้าของตราสินค้าผลิตภัณฑ์ด้วย เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศและมูลค่าเหล่านั้นต้องอยู่ในมือของพี่น้องเกษตรกรไทย
ทั้งนี้แนวทางของนายธนาธร ตรงกับที่เกษตรกรในพื้นที่สะท้อนว่าอยากให้มีโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก เกษตรกรจะได้ไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางมากจนมากเกินไปเหมือนในปัจจุบัน รวมทั้งอยากเห็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การแก้ไขแบบชั่วครั้งชั่วคราวโดยการประกันราคาสินค้าเกษตร
นอกจากนี้ นายธนาธรยังกล่าวถึงการผูกขาดการผลิตและการค้าปุ๋ยที่ต้องขอใบอนุญาต และที่สำคัญต้องขอจากภาครัฐที่อยู่ใน กทม.ทำให้ประชาชนในจังหวัดอี่นเข้าถึงได้ยากมาก การขายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการส่งออก ยกตัวอย่างเช่นการส่งออกน้ำมันปาล์ม จำเป็นต้องขอใบอนุญาตส่งออก ซึ่งในประเทศไทยกำหนดให้ขอใบอนุญาตได้ยากและมีขั้นตอนซับซ้อน นอกจากนี้คนในพื้นที่ยังได้สะท้อนปัญหาเรี่องป่าทับซ้อนที่ดินทำกิน การประมงชายฝั่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การขนส่งและการคมนาคมในระดับภูมิภาคอีกด้วย