"ตำนานสมิง" สิงร่างกระชากสยอง

2018-08-26 16:00:51

"ตำนานสมิง" สิงร่างกระชากสยอง

Advertisement

เรื่องเล่าลือถึงตำนานฝังเขี้ยวสยองของ "เสือสมิง"  ซึ่งเป็นเสือตัวใหญ่ที่มีพละกำลังมหาศาล ดุร้าย และโปรดปรานการล่ามนุษย์เป็นอาหาร เรื่องราวความน่ากลัวของศาสตร์ลึกลับนี้ได้กลายเป็นตำนานที่บอกเล่ากันมาหลายยุคหลายสมัย เมื่อเสือสมิงกลืนเนื้อมนุษย์เข้าไปมากมาย วิญญาณของศพที่ตายไปนั้นก็สิงสู่อยู่ในกายเสือ จนทำให้เสือตัวนั้นเพิ่มความน่ากลัว ไม่ขยาดกลัวกับการไล่ฆ่ามนุษย์ และสามารถแปลงร่างกลายเป็นใครก็ได้ตามใจปรารถนาเพื่อพรางกายตนเอง และเที่ยวล่อลวงเหยื่อให้มาหลงกลมันอีกครั้ง จนในที่สุดก็จะถูกจับกินเป็นอาหาร หากจำนวนศพหรือวิญญาณในร่างเสือตัวนั้นมีมากขึ้นเท่าไร เสือตัวนั้นก็จะยิ่งทวีฤทธิ์อำนาจมากขึ้นอีกเท่าทวีคูณ



เรื่องราวความลี้ลับหลายเรื่องถูกเล่าขานผ่านการเวลา จนเรียกกันว่าเป็นตำนาน ซึ่งไม่อาจฟันธงได้ว่า เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงมากน้อยแค่ไหน หรือถูกแต่งเติมอะไรมาบ้างแล้วจากเวลาที่ล่วงเลยมา หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของ “เสือสมิง” ซึ่งเป็นอาถรรพณ์ของเสือที่ไม่ธรรมดา สามารถแปลงเป็นคนได้





นั่นเป็นเพียงเรื่องราวคร่าวๆ ที่มักได้ยินได้ฟังกัน แต่ยังมีอีกเรื่องราวหนึ่งเกี่ยวกับการเกิดเสือสมิง ที่ไม่ใช่แค่เสือดุร้ายมากินคนแล้วกลายเป็นเสือสมิง แต่เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ นั่นก็คือผู้ที่มีวิชาอาคมที่เรียกว่า “วิชาเสือ” เรียกเอาวิญญาณของเสือมาสิงในตัวเอง ผนวกเข้ากับการที่บุคคลผู้นั้นเรียนอาคม ทางเดรัจฉานวิชาด้วย เมื่อนานวันเข้า ทั้งวิชาเรียกเสือและอาคม ทำให้ผู้นั้นกลายเป็นเสือสมิง และยิ่งถ้าหากเสือตนนี้ได้ไปกินคนเข้า ก็จะกลายเป็นเสือสมิงโดยสมบูรณ์





มีเรื่องเล่าขานและค่อนข้างดังมาก เมื่อหลายสิบปีแล้วก่อน ซึ่งเป็นข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ของประเทศว่า มีชาวบ้านทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนจากเสือตัวใหญ่ที่เข้าไปทำร้ายคนในหมู่บ้าน เป็นที่น่าหวาดกลัวแก่ชาวบ้านเอามากๆ จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากทหาร ตชด. เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัยคนในหมู่บ้าน ฝ่ายทหารจึงส่งกำลังเข้าไปลาดตระเวนและไล่ล่าเสือตัวนั้นอย่างเร่งด่วน 



กลางดึกคืนหนึ่งนั้นทหาร ตชด. ได้จัดกำลังตรวจตราหน่วยหนึ่ง และส่วนที่เหลือก็อยู่บนศาลาสูงที่จัดไว้เป็นที่พักผ่อนนอนหลับ และในตอนดึกคืนนั้น ศาลาที่หน่วย ตชด. พัก เกิดสั่นไหวผิดปกติ ทหารที่นอนพักกันอยู่จึงตื่นและลุกขึ้นมาดูสาเหตุ ปรากฏเห็นเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ กำลังเอาตัวสีไปมาข้างอยู่ที่โคนเสาศาลา พวก ตชด.จึงระดมยิงใส่เสือโคร่งใหญ่นั้น ทำให้เสือตัวนั้นบาดเจ็บและหายไปในความมืด





พอรุ่งเช้า เหล่า ตชด.จึงแกะรอยติดตามเลือดเสือตัวนั้นไป ปรากฏว่า รอยเลือดนั้นไปสิ้นสุดที่เนินดินแห่งหนึ่ง แล้วไม่ปรากฏรอยเลือดนั้นไปทางไหนอีก หน่วยทหารจึงตัดสินใจขุดหลุมเปิดเนินดินนั้น เมื่อขุดไปลึกพอสมควรก็ต้องอึ้งกันไปทั้งหมด เพราะสิ่งที่เห็นในหลุมนั้นปรากฏว่าเป็นศพผู้ชายคนหนึ่งที่ลำตัวท่อนล่างมีสภาพเป็นเสือลายพาดกลอน  

"ดูเหมือนว่าการกลายร่างจากเสือเป็นคนที่ยังไม่สมบูรณ์นั่นเอง" 





เมื่อถามจากชาวบ้านถึงที่มาของศพชายคนนี้ ได้ความว่า เป็นคนในหมู่บ้านอื่นและสาเหตุที่ตายเพราะทำคุณไสยใส่คนอื่นแล้วเกิดผิดผีจึงถูกของไม่ดีนั้นเข้าร่างและตายในที่สุด


 

อีกหนึ่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิง จากอดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ชื่อว่าลุงทองปัจจุบันเกษียณแล้วเรื่องราวมีอยู่ว่า มีอยู่ปีหนึ่ง เขาได้ลาพักร้อน 3 วัน เพื่อพักผ่อน แต่การพักผ่อนครั้งนั้น เขาตั้งใจว่าจะไปนั่งห้างที่ทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อดูสัตว์ป่ามากินดินโป่งตอนกลางคืน บรรยากาศดี เย็นสบาย และก่อนจะเข้าป่าครั้งนั้น ลุงทองได้สั่งภรรยาไว้ว่า “ไม่ต้องเข้าไปตามนะ จะเข้าป่า อีก 3 วันแล้วจะกลับออกมา”





หลังจากนั้นเขาก็ได้เตรียมสัมภาระที่จำเป็นในการเข้าป่า เขาเล่าว่าเดินเข้าไปลึกมาก พอถึงห้างที่จะพำนัก เพื่อดูสัตว์ในเวลากลางคืน คืนแรกผ่านไปบรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย เห็นหมูป่าตัวหัวหน้าพร้อมหมูตัวเมียแวดล้อมออกมาหาดินโป่งกินตอนกลางคืน ทุ่งใหญ่นเรศวรสมัยนั้น สัตว์ป่าชุกชมมาก ถือเป็นป่าใหญ่ก็ว่าได้



พอถึงวันที่ 2 ตกกลางคืนเขาก็ขึ้นไปนั่งบนห้างเช่นเคย คืนนี้แปลก ฟ้ามืดสนิท ไม่มีดาว ไม่มีแสงจันทร์ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบผิดปกติ และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดิน เขาตั้งใจฟัง ใจนึกว่าใครหนอกล้าหาญมาก มาเดินป่าตอนกลางคืน จากนั้นเขาก็ได้ยินเหมือนเสียงเมียตัวเองเรียก “พี่ทอง พี่ทอง นี่ฉันเอง” เขามองลงไป เห็นเมีย ถือตะเกียงเจ้าพายุ มายืนอยู่บอกว่า ลูกไม่สบาย ตัวร้อนจัด ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยมาตามพี่ พอเห็นเมียเขาก็ทำท่าจะลงจากนั่งห้างไปหาเมีย แต่ก็เอะใจขึ้นมาว่า ทำไม ภรรยาถึงรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ ทำไมถึงกล้าหาญมาในป่าลึกกลางคืน โดยไม่กลัวสิงสาราสัตว์เลย เวลาคุย จะพยายามหลบสายตา ไม่ยอมสบตาเราตรงๆ ตะเกียงเจ้าพายุ หากมาจากบ้านน้ำมันตะเกียงน่าจะหมด แต่ทำไมถึงสว่างอยู่ได้ และในมือก็ไม่มีสัมภาระมาเลย มาในชุดคอกระเช้าและผ้าถุง ซึ่งเป็นชุดอยู่บ้าน ที่เขาตัดสินใจ หันปากกระบอกปืนส่งให้เมีย และพูดว่า “รับปืนพี่ที พี่จะลงไปแล้ว”



พอเมียยื่นมือจะรับกระบอกปืน เขาก็ลั่นไกปืนยิงทันที เสียงปืนดังสนั่น ท่ามกลางความเงียบในคืนราตรีคืนนั้น มีเสียงเสือคำราม และพุ่งตัวออกไปจากโคนต้นไม้ด้วยความเร็ว ออกไปทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นแนวป่าลึกเข้าไปอีก เขาตกใจมากๆ หรือว่าจะเป็น "เสือสมิง" เหลือเชื่อมาก เสือสมิงมีจริงด้วยหรือ เห็นเป็นตำนาน แต่นี่อะไรกัน และศพเมียไปไหน ? หรือโดนเสือร้ายกินไปเสียแล้ว



พอรุ่งเช้าลุงทองรอให้ตะวันโด่ง เขาจึงตัดสินใจกลับบ้าน แต่ยังคาใจเรื่องแปลกเมื่อคืน จึงตัดสินใจเดินลงไปในแนวป่าลึกที่มีแต่เงาไม้สุมทุมทะมึน เจ้าเสือน่าจะวิ่งไปทางนั้น โดนยิงเต็มๆ แบบนี้คงไปไม่ไกลนัก เดินไปได้สักพักเขาก็เห็นเสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่นอนตายอยู่ เห็นอย่างนั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านในทันที 

พอถึงบ้านเห็นเมียกำลังเล่นกับลูก ลุงทองก็โล่งอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถามเพียงว่า 3 วันนี้ไปไหนมาบ้างหรือเปล่า เมียแกตอบว่าไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านกับลูกตลอด ลุงทองบอกว่าเหลือเชื่อมากๆ ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่เชื่อเลย คิดว่าเป็นตำนาน ที่ไหนได้มีจริงในโลก



เขาบอกว่าการลั่นไกครั้งนั้น ตัดสินใจยิงที่ตะเกียงเจ้าพายุ เพราะพรานเฒ่าเคยสอนว่า เสือสมิงแปลงร่างเป็นคนได้ หากจะฆ่าให้ตายให้ยิงที่แสงไฟที่มันถือ ขณะแปลงร่างเป็นคน เพราะนั่นคือหัวใจของมัน เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเสือสมิง เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมาปากต่อปาก ใครที่เคยพบเห็นกับตัวก็คงยืนยันได้ว่าอาจจะมีอยู่จริง แต่คนที่ฟังเพียงเขาเล่ามา ก็มิควรปักใจ เพราะเรื่องเล่าหลายเรื่องยิ่งผ่านกาลเวลามายาวนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสีสันเติมแต่งมากกว่าข้อมูลที่มีอยู่เดิมมากขึ้นเท่านั้น ฟังไว้เพื่อประดับความรู้ดูจะเข้าท่ากว่า และหากวันใดต้องเผชิญหน้ากับเสือสมิงเข้าจริง เรื่องราวที่ฟังเขาเล่ามาก็อาจจะจำเป็นขึ้นมาในทันทีทันใดก็เป็นได้...