ด่วน!!..เขื่อนวชิราลงกรณ ขยายเวลาระบายน้ำ 53 ล้านเพิ่มอีก 7 วัน อ.ไทรโยคน้ำสูงขึ้น1เมตร แหล่งท่องเที่ยวยังไม่มีผลกระทบ ชาวบ้านอ่วมยาวโวยท่วมนานทำกินไม่ได้
วันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังจากเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมาเขื่อนวชิราลงกรณ ระบายน้ำเพิ่มจาก 43 ล้านลบ.ม.เป็น 53 ล้านลบ.ม. ที่บ้านปากแซง ม.3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ระดับน้ำได้เอ่อเพิ่มสูงขึ้น เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน จากเดิม 50 ซม.เพิ่มขึ้นอีก 50 ซม.เป็น 1 เมตร จนถึงระดับที่เจ้าหน้าที่อุทกวิทยา ได้มาใช้กล้องวัดระดับ และพ่นตัวเลขสีแดง แนวระดับชายตลิ่งกับพื้นถนน ชาวบ้านที่อยู่อาศัย บริเวณบ้านปากแซงจำนวน 6 หลังคาเรือน ต่างขนทรัพย์สินสิ่งของขึ้นไปไว้บนพื้นที่สูงขึ้น เนื่องจากระดับน้ำยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง
ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย สูงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆแต่ต่อเนื่อง โดยมีระดับความสูงห่างจาก สะพานปากแซง ที่รถยนต์ยานพาหนะต่างๆ ใช้สัญจรข้ามแม่น้ำแควน้อยราว 2.50 เมตร และห่างจากสะพานสลิงแขวนราว 1 เมตร
ด้านนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หน.อุทยานฯเขาแหลม อ.สังขละบุรี เปิดเผยว่า ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวทั้งจุดชมวิวป้อมปี่ น้ำตกเกริงกระเวีย ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชม ต่างบอกว่าน้ำตกมีน้ำมากสวยงามที่สุด และที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง อุทยานฯทองผาภูมิ หลังปิดมาระยะหนึ่ง ก็ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมดังเดิม
ส่วนที่น้ำตกเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี นายปรยุษฐ์ ไวว่อง หน.อุทยานฯ เอราวัณ เผยว่า น้ำตกเอราวัณและถ้ำพระธาตุ ไม่มีผลกระทบใดๆ นักท่องเที่ยวยังคงเดินทาง มาเที่ยวชมปกติ ปริมาณน้ำมากยิ่งทำให้น้ำตกสวยงามยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อ.ศรีสวัสดิ์ นายฐิติ โสมภีร์ หน.อุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ บอกว่าน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้ง 7 ชั้น รวมทั้งน้ำตกผาตาดขณะนี้มีความสวยงามมาก ไม่มีปัญหาอย่างใด นักท่องเที่ยวสามารถแวะเวียนเข้ามาเที่ยวได้ตามปกติ
สำหรับน้ำตกไทรโยคน้อยและน้ำตกไทรโยคใหญ่ อ.ไทรโยค นักท่องเที่ยวก็ยังคงเดินทางมาเที่ยวชมเช่นเดิม ไม่มีผลกระทบ จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง หรือน้ำป่าไหลหลาก แต่ที่พุน้ำร้อนลิ่นถิ่น ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย สูงท่วมสระทั้ง 2 สระที่สร้างไว้ให้นักท่องเที่ยวได้แช่ตัว ทางเทศบาล ต.ลิ่นถิ่น จึงได้ปิดชั่วคราว จนกว่าระดับน้ำจะลดลง ส่วนที่พุน้ำร้อนหินดาด ปริมาณน้ำในลำห้วยไหลหลาก จนระดับสูง เข้าท่วมบ่อที่กักน้ำร้อนไว้ แต่ยังให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม
ด้านนายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า เขื่อนวชิราลงกรณ ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำฯ โดยระบายผ่านช่องทางปกติวันละ 43 ล้านลบ.ม. และระบายผ่านทางระบายน้ำล้น (Spillway) วันละ10ล้านลบ.ม. รวมเป็นระบายน้ำวันละ 53 ล้านลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 23-27 ส.ค.
จากการติดตามสถานการณ์น้ำไหลเข้าเขื่อน พบว่ามีปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อนมาก ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯสูงขึ้นโดยตลอด จึงขอขยายระยะเวลาการระบายน้ำวันละ 53 ล้านลบ.ม. จากเดิมต่อไปจนถึงวันที่ 3 ก.ย.2561 จึงขอให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง เตรียมรับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว และขอยืนยันว่าสภาพตัวเขื่อน มีความมั่นคงแข็งแรง มีความปลอดภัยสูง โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำตลอด 24 ชม.
อย่างไรก็ตาม หลังจากประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการ รีสอร์ท ที่พัก ต่างๆที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ด้านใต้เขื่อน ทั้งอ.ทองผาภูมิ และอ.ไทรโยค ทราบว่าเขื่อนจะระบายน้ำ 53 ล้านลบ.ม. เพิ่มต่อจากเดิมไปอีก7วัน ต่างรู้สึกเครียดกังวลใจเป็นอย่างมาก บ่นกันทั่วว่าที่ผ่านมา ระดับน้ำได้สูงเข้าท่วม จนไม่สามารถอาศัยอยู่ และประกอบอาชีพได้ หวังว่าระดับน้ำจะลดลงในระยะเวลาไม่นาน แต่เมื่อขยายเวลาปล่อยน้ำไปอีก ระดับน้ำจะลดเมื่อใดก็ไม่รู้ได้ มีแต่สูงขึ้น ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร รวมทั้งไม่มีรายได้ มาจุนเจือแต่อย่างใด