กรมการขนส่งเชื่อคุมเข้มใบขับขี่ลดอุบัติเหตุ

2018-08-24 12:50:28

กรมการขนส่งเชื่อคุมเข้มใบขับขี่ลดอุบัติเหตุ

Advertisement

กรมการขนส่งทางบกเผยปรับปรุงกฎหมายเพิ่มโทษกรณีไม่พกใบขับขี่ ใบขับขี่หมดอายุ จะช่วยลดอุบัติทางถนนได้ แจงกฎหมายยังไม่บังคับใช้ ขั้นตอนอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. ก่อนส่งให้ สนช.พิจารณา เตรียมรวบรวมเสียงสะท้อนเสนอให้ สนช.พิจารณาต่อไป

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล3 ในฐานะคณะทำงาน แก้ไขปัญหาจราจรร่วมกันแถลงกรณีกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการเสนอปรับแก้ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 เข้าด้วยกันให้เป็นกฎหมายฉบับเดียว เพิ่มโทษกรณีไม่พกใบขับขี่ และใบขับขี่หมดอายุแต่ฝืนขับรถ โดย นายกมล กล่าวว่า กฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้บังคับใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 จำเป็นต้องมีการปรับเนื้อหาให้มีความทันสมัย และให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้างความตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม เนื่องจากข้อมูลศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่อยู่ระหว่างการนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ซึ่งจะทำให้ ผู้ขับขี่ตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจรมากขึ้น ส่วนกรณีที่มีข้อคิดเห็นคัดค้าน วิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน จะมีการรวบรวมข้อมูลและส่งให้ สนช. พิจารณาต่อไป



ส่วนกรณีที่มีข้อสังเกตการเพิ่มโทษผู้ไม่มีขับขี่ โดยการจำคุก ขณะที่มีปัญหาคนล้นคุก นายกมล ระบุว่า จริงๆ แล้วประเทศไทยมีโทษจำคุกอยู่แล้ว แต่กฎหมายใหม่ จะต้องมีการทำสำนวนคดี เพื่อส่งให้ศาลพิจารณาตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามทางกรมการขนส่งทางบก เตรียมปรับปรุงการพิจารณาออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีการสอบข้อเขียน 50 ข้อ หลังจากนี้จะเพิ่มการอบรมให้เป็น 5 ชั่วโมง สำหรับปัญหาเรื่องการอบรม ที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการฉายวิดีโอ ทำให้คนที่เข้าร่วมอบรม ไม่สนใจดู ทางกรมการขนส่งทางบก จะเปลี่ยนเป็นการไลฟ์สด จากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ ส่วนการทดสอบภาคปฏิบัติ จะเปลี่ยนเป็นการทดสอบผ่านสนาม E-Driving โดยเปลี่ยนจากการใช้คนดู เป็นใช้กล้องตรวจจับความผิด เพื่อให้ผู้เข้าสอบเห็นข้อผิดพลาดชัดเจนขึ้น

ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 กล่าวว่า ภายหลังจากที่กฎหมายประกาศใช้ การเพิ่มบทลงโทษจะทำให้ข้อหาไม่มีใบอนุญาติขับขี่ไม่ใช่ความผิดลหุโทษอีกต่อไป ตำรวจจะไม่มีอำนาจพิจารณาเปรียบเทียบปรับเหมือนเดิม แต่จะต้องสรุปสำนวนฟ้องศาล และให้ศาลเป็นผู้พิจารณาบทลงโทษ โดยหากกระทำผิดซ้ำเดิมบ่อยครั้ง แสดงเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจก็จะระบุลงในสำนวนด้วย ทั้งนี้ยอมรับว่า กฎหมายเดิมที่ให้ตำรวจเปรียบเทียบปรับมาตลอด 39 ปีนั้นไม่ได้ผล สถิติของผู้ที่ไม่มีใบขับขี่สูงขึ้น สถิติอุบัติเหตุสูงขึ้น เพราะผู้ขับขี่เพียงมาจ่ายค่าปรับกับตำรวจ แล้วก็กลับไปขับขี่ต่อ ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ได้แก้ปัญหาจริงจัง




สำหรับรายละเอียดใน ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. มีการเสนอแก้ไขปรับเพิ่มโทษความผิดเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ คือ ความผิดเกี่ยวกับการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ปัจจุบันมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่เสนอให้ปรับเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท ส่วนความผิดเกี่ยวกับการขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต ปัจจุบันมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ จะเพิ่มโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท และส่วนความผิดเกี่ยวกับการขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ปัจจุบันมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ในขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ปรับสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาท ซึ่งจะทำให้เกิดความสอดคล้องกับบริบทการบริหารราชการ การ ควบคุม กำกับ ดูแล และบังคับใช้กฎหมาย ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน