เขื่อนวชิราลงกรณ ระบายน้ำ 53 ล้านลบ.ม. วันนี้ ผ่านสปิลเวย์ในรอบ 16 ปี ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมช่วยชาวบ้าน หากระดับน้ำสูงเข้าท่วมบ้านเรือน ผอ.เขื่อนยันเขื่อนแข็งแรงปลอดภัย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่เขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.สุจินต์ ศรีวิเชียร พ.อ.ปรีติ กุมภิรัตน์ ผบ.นพค.11 สนภ.1 นทพ.จนท.ปภ.รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่สนใจจำนวนมาก เดินทางเข้าร่วมสังเกตสถานการณ์ระบายน้ำของเขื่อนฯ โดยได้เริ่มทำการระบายน้ำเพิ่ม ผ่านทางระบายน้ำล้น Spillway เป็นวันแรก โดยประตูระบายน้ำมี 2บาน เจ้าหน้าที่ทำการเปิดทีละบาน โดยยกประตูขึ้นสูงราว 50 ซม. เฉลี่ยระบายน้ำประตูละ 5 ล้าน ลบ.ม. รวม 2 บาน 10 ล้าน ลบ.ม.ขณะเดียวกันก็ระบายน้ำ ผ่านช่องทางปกติ วันละ 43 ล้านลบ.ม. รวมเป็น 53 ล้านลบ.ม.
นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ เปิดเผยว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการทดสอบระบบด้านเทคนิค ในการระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น (Spillway ) มาแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน ก่อนจะทำการเปิดประตูระบายน้ำจริงในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูระบายน้ำผ่านสปิลเวย์ ในรอบ 16 ปี สำหรับการเปิดประตูระบายน้ำผ่านวปิลเวย์ในครั้งนี้ ได้กำหนดไว้เป็นเวลา 5 วัน อย่างไรก็ตามคาดว่าผลกระทบทางด้านท้ายน้ำ อาจจะมีไม่มากนัก เนื่องจากการระบายน้ำเพิ่มอีก 10 ล้านลบ.ม.ต่อวัน จะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จากประกาศศูนย์เฉพาะกิจติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ กฟผ. เรื่องแผนการพร่องน้ำ ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อน เพื่อพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำตามข้อสั่งการ ของ ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80 % หรือสูงกว่า Upper Rule Curve ให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ควบคุม โดยระบายผ่านช่องทางปกติวันละ 43 ล้าน ลบ.ม. และระบายผ่านทางระบายน้ำล้น (Spillway ) วันละ 10 ล้าน ลบ.ม. รวมเป็นการระบายน้ำวันละ 43 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 23-27 ส.ค.2561 จากนั้นจะติดตามสถานการณ์น้ำไหลเข้าเขื่อน เพื่อพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำต่อไป
ทั้งนี้เขื่อนวชิราลงกรณ จึงขอแจ้งประสานให้กับผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนท้ายเขื่อน เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ระบายน้ำที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว และขอยืนยันว่าสภาพตัวเขื่อน มีความมั่นคงแข็งแรง มีความปลอดภัยสูง โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำตลอด24ชั่วโมง
ด้านพ.อ.ปรีติ กุมภิรัตน์ ผบ.นพค.11 สนภ.1 นทพ. เผยว่า หลังเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำการระบายน้ำเพิ่มเป็นวันละ 53 ล้าน ลบ.ม. ได้นำกำลังออกสำรวจตรวจสอบ บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ด้านใต้เขื่อนใน อ.ทองผาภูมิ และอ.ไทรโยค บริเวณริมแม่น้ำแควน้อย หากระดับน้ำสูงจนเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้ในทันที โดยได้วางกำลังพลเฝ้าสังเกตสถานการณ์น้ำไว้เป็นจุดๆ ตามแนวพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ และที่หน่วย นพค.11ได้เตรียมอุปกรณ์ในการช่วยเหลือพร้อมกำลังไว้ตลอดเวลาแล้ว สามารถเดินทางเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ในทันที
ส่วนที่บ้านปากแซง ม.3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค น.ส.พรสุดา มุสิกโปฏก ปลัดเทศบาลน้ำตกไทรโยคน้อย พร้อมด้วยรองนายกฯ และสท.นำข้าวสารอาหารแห้ง และน้ำดื่มมามอบให้ ชาวบ้านทั้ง 6 ครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือน ต้องอพยพขนทรัพย์สินข้าวของขึ้นไปไว้ที่สูง โดยแจ้งกับชาวบ้านให้สำรวจตรวจสอบ บ้านเรือนเสียหายหรือไม่ มากน้อยเพียงใด จะได้เข้าช่วยเหลือซ่อมแซมให้ต่อไป
อย่างไรก็ตามชาวบ้าน ที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำแควน้อย ด้านใต้เขื่อนต่างยังวิตกกันว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นมากหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขื่อนระบายน้ำวันละ 43 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำยังสูงจนเข้าท่วมบ้านเรือน และวันนี้ระบายเพิ่มขึ้นอีก10ล้าน ลบ.ม.เชื่อว่าระดับน้ำคงสูง มากขึ้นกว่าเดิมอีกแน่นอน ต่างเตรียมขนทรัพย์สินสิ่งของขึ้นที่สูง