ชมรมเพื่อนแท้ชาววิน ยื่นหนังสือบริษัทแกร็บหยุดบริการ หลังปล่อยให้รถป้ายขาววิ่ง เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง 30 ส.ค.นี้ หากไม่แก้ไข
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ชมรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะกรุงเทพมหานคร หรือ ชมรมเพื่อนแท้ชาววิน รวมตัวกันที่หน้าตึกธนภูมิ ถนนเพชรบุรี เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และยื่นหนังสือถึงบริษัทแกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด หลังได้รับผลกระทบจากผู้ขี่แกร็ปที่ไม่ปฏิบัติตามมติการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความมั่นคงกรุงเทพมหานคร(กอ.รมน.) ที่ระบุว่า ผู้ให้บริการรถรับจ้างสาธารณะต้องมีใบขับขี่สาธารณะและรถจักรยานยนต์ต้องใช้ป้ายทะเบียนสาธารณะ(ป้ายเหลือง)เท่านั้น ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่1ก.ค.ที่ผ่านมา แต่พบว่าปัจจุบันบริษัทแกร็บ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ยังไม่หยุดให้บริการและยังมีการสนับสนุนสมาชิกในการนำรถจักรยานยนต์ป้ายขาวมาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร วันนี้จึงมาเรียกร้องต่อบริษัทแกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกับยื่นหนังสือสอบถามเรื่องนี้
นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ ตัวแทนชมรมเพื่อนแท้ชาววินเปิดเผยว่า การออกมารวมตัวและแสดงออกเชิงสัญลักษณ เนื่องจากบริษัทแกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ปฏิบัติตามมติที่ประชุม กอ.รมน.ยังปล่อยให้รถจักรยานยนต์ป้ายขาวให้บริการประชาชน และมองว่าบริษัทเป็นภัยคุกคามต่อการประกอบอาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก รวมถึงเหตุใดบริษัทจึงไม่ชี้แจงสังคมหรือประชาชนได้รับทราบถึงปัญหาและเหตุผลที่ไม่สามารถนำรถจักรยานยนต์ป้ายเหลืองที่ถูกต้องตามกฎระเบียบและกฎหมายมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยจะหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่กลับที่จะแก้ไขกฎระเบียบหรือกฎหมาย
ตัวแทนชมรมเพื่อนแท้ชาววิน ระบุอีกว่า การออกมารวมตัวและเรียกร้องต่อบริษัทแกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันนี้ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งหากหลังจากนี้หากบริษัทไม่มีการดำเนินการแก้ไข ก็เตรียมจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองที่จะฟ้องกรมขนส่งทางบก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพานิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ปล่อยให้บริษัทดังกล่าวให้บริการด้วยรถป้ายขาว ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งหากศาลพิจารณาตัดสินออกมาอย่างไร ก็พร้อมน้อมรับทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น แต่บริษัทที่ให้บริการต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างจากหลายพื้นที่รวมตัวกันมายื่นหนังสือ ท่ามกลางการรักษาความสงบของเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจ สน.มักกะสัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
