“ป้า” ถูกล็อคล้อรถในสนามบิน ขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่จราจรและรถเสียหายจำนวนมาก ก่อนถูกรวบไปดำเนินคดี ขณะที่ญาติ นำใบรับรองการรักษา รพ.ประสาท มาให้เจ้าหน้าที่ดู ระบุเป็นโรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน กำลังอยู่ระหว่างการรักษา
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรืออากาศโท วศิน พลนาวี รอง ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รักษาการแทน ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนเจ้าหน้าที่จราจรของบริษัทรับจ้างรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกและจัดการจราจร บริเวณหน้าประตูหมายเลข 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลและเลือดไหลทั่วร่างกาย ขาข้างซ้ายผิดรูป
ต่อมาทางพ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน รอง ผกก.สอบสวน สภ.ภูพิงค์ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบผู้บาดเจ็บคือนายวัชระ ไชยวงศ์ เจ้าหน้าที่ดูแลการจราจรบริเวณถนนหน้าอาคารโดยสาร ได้รับบาดเจ็บกระดูกขาหัก ทางเจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งให้แพทย์ทำการรักษา บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหน้าอาคารโดยสารภายในประเทศ มีรถถูกชนจำนวน 4 คันโดยรถต้นเหตุคือ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กร 4459 เชียงใหม่ มี นางภัทรา บุญเฉลียว อายุ 69 ปีอยู่บ้านเลขที่ 50 ซอย 1 ถ.สนามกีฬา ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่ ไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งฟอร์ด หมายเลขทะเบียน ขง 4908 เชียงใหม่ รถตู้หมายเลขทะเบียน 3ล3269 เชียงใหม่ รถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ฆข 3 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน คฉ 5751 พะเยา โดยรถทุกคันมีร่อยรอยของการถูกชน

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางภัทรา ซึ่งมาส่งเพื่อนที่สนามบินและจอดบริเวณที่ห้ามจอด นานกว่า 1 ชั่วโมงจึงถูกเจ้าหน้าที่ล็อคล้อรถ ทำให้นางภัทราต้องเสียค่าปรับจำนวน 400 บาท และมีการโวยวายเจ้าหน้าที่ หลังการเสียค่าปรับนางภัทราเดินออกมาที่รถ เจ้าหน้าที่จราจรของสนามบินก็ปลดล็อคล้อให้ จากนั้นนางภัทราก็ขึ้นรถเพื่อขับออกไป แต่อยู่ๆ ก็ขับพุ่งชนนายวัชระ ที่ยื่นอยู่กลางถนนคอยโบกรถ และพุ่งไปชนรถที่จอดอยู่ข้างหน้า และไปชนรถที่อยู่ข้างขวา ทำให้รถทั้ง 4 คันเสียหาย และนายวัชระได้รับบาดเจ็บ โดยนางภัทรา ได้ลงจากรถและก็มีอาการเหมือนคนจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมเชิญญาติมาที่ สภ.ภูพิงค์ โดยนายดล ใจไหว อายุ 41 ปี คนดูแลนางภัทรา ได้นำใบรับรองการรักษา รพ.ประสาท มาให้เจ้าหน้าที่ดูและระบุว่านางภัทรา เป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน กำลังอยู่ในระหว่างการรักษา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวนางภัทราก็จำอะไรไม่ได้ แต่ญาติพร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด รวมถึงการดูแลคนเจ็บ และยอมรับผลทางคดีความ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาอื่นกำลังรอผลการตรวจจากแพทย์ และจะได้เชิญนางภัทรา มาสอบปากคำและแจ้งข้อหาต่อไป