"แม่น้ำสาละวิน" เออท่วมสูงสุดในรอบ 9 ปี

2018-08-20 17:55:39

"แม่น้ำสาละวิน" เออท่วมสูงสุดในรอบ 9 ปี

Advertisement

แม่น้ำสาละวินเออท่วมสูงสุดในรอบ 9 ปี เพิ่มขึ้นจากท่าเรือ 20 เมตร ซ้ำรอยปี 52 เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนใช้เส้นทางเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ขณะที่ปัญหาดินโคลนเลื่อนไหลยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทางจุดเดิมซ้ำซากแก้ปัญหารายวัน

จากสถานการณ์ฝนฟ้าที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้ ระดับน้ำในแม่น้ำสาละวินเพิ่มสูงขึ้น โดยนายสุภาพ นุชนงคราญ ผู้ใหญ่บ้านแม่สามแลบ เปิดเผยว่า ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าทุกปีหลายเท่าตัว สูงสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งระดับน้ำเคยสูงแบบนี้เมื่อปี 2552 ระดับน้ำสูงท่วมศาลาชมวิวของบ้านแม่สามแลบ เพิ่มขึ้นจากระดับน้ำเดิมบริเวณท่าเรือ ถึง 20 เมตร แต่ยังไม่ส่งผลกระทบกับราษฏรในพื้นที่ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารพราน 36 ชุดปฏิบัติการฐานแม่สามแลบ ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนราษฏรที่ยังคงใช้เส้นทางเรือตามปกติ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ พร้อมแจ้งให้เรือโดยสารทุกลำปฏิบัติตามกฎดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารและให้ใช้ชูชีพทุกครั้งที่มีการออกเรือ ซึ่งสภาพอากาศในพื้นที่ บ้านแม่สามแลบวันนี้ยังมีฝนตกหนัก ขณะเดียวกัน เส้นทางถนนหลายสายใน ต.แม่สามแลบยังเป็นมีปัญหาดินโคลนเลื่อนไหล ไม่ปลอดภัย การขนส่งเสบียงอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนหลายโรงเรียนชายแดนแม่สามแลบ ต้องอาศัยเส้นทางเดินเรือแทนทางรถ เช่น โรงเรียนบ้านท่าตาฝั่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ปัญหาดินโคลนเลื่อนไหล ต้นไม้หักโค่น หลังมีฝนตกหนักติดต่อกัน ยังเป็นปัญหาซ้ำซากในหลายพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปแก้ปัญหาแบบรายวัน โดยทาง พ.อ.วุฒิ ปฐมเรืองกุล ผบ.ฉก.ทพ.36 มอบหมายให้ พ.ต.สมยงค์ ทองมิตร ผบ.ร้อย.ทพ.3602 ฐานปฏิบัติการบ้านแม่สามแลบ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกสำรวจเส้นทาง ร่วมกับทาง อบต.แม่สามแลบ หลังจากฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินหินโคลนเลื่อนไหล ต้นไม้หักโค่นขวางทางจำนวน 3 จุด โดยมีเหตุดินโคลนเลื่อนไหลทับถมเส้นทาง ผ่านเข้า–ออก บ้านกอมูเดอ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ล้มขวางเส้นทาง 2 จุด ระหว่าง บ.สิวาเดอ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ช่วยกันตัดกิ่งไม้ ต้นไม้ที่ล้มขวาง ร่วมกับ อบต.แม่สามแลบ นำรถไถฟาร์มเข้าเกลี่ยดินเพื่อเปิดเส้นทาง และยานพาหนะสามารถผ่านเข้าออกได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เส้นทางต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่องอาจส่งผลทำให้ดินโคลนเลื่อนไหลได้ตลอดเวลา