จับหนุ่ม ม.6 ไม่เข็ดวิ่งราวทอง หาเงินจ่ายคอร์สเสริมความงาม

2018-08-20 10:50:57

จับหนุ่ม ม.6 ไม่เข็ดวิ่งราวทอง หาเงินจ่ายคอร์สเสริมความงาม

Advertisement

หนุ่ม ม.6 ไม่เข็ดหลาบ ก่อเหตุวิ่งราวทองคำซ้ำเป็นครั้งที่ 2 อ้างต้องการนำสร้อยข้อมือ 5 บาทไปขายหาเงินก้อนจ่ายค่าคอร์สเสริมความงาม เผยคราวนี้เตรียมทองปลอมไว้เบี่ยงเบนความสนใจด้วย



เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.หลักสอง ได้จับกุมตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 รร.มัธยมชื่อดังย่านบางแค พร้อมของกลางสร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น และสร้อยข้อมือชุบทองคำปลอมหนัก 5 บาท 1 เส้น โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางแค แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 11.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำกำลังตรวจตราอยู่ในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกรุงธน ว่า เกิดเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นบันไดเลื่อน ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางแค คนร้ายถูกพลเมืองดีช่วยกันไล่ต้อนวนเวียนหลบหนีอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า จึงรีบนำกำลังฝ่ายสืบสวนและสายตรวจรุดไปตรวจสอบ กระทั่งพบนายเอผู้ต้องหา วิ่งไปจนมุมที่ลานจอดรถ เบื้องต้นจึงควบคุมตัวเอาไว้พร้อมของกลาง ก่อนเชิญตัวมาสอบสวนและแจ้งผู้ปกครองมาที่โรงพัก



จากการสอบสวน นายเอ ยอมรับว่า เคยก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 2 เส้นจากร้านทองออโรร่า ชั้น 3 โซนซี ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มารดาต้องรีบพาเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 2 ส.ค. และได้รับการประกันตัวออกมา ซึ่งในคดีดังกล่าวนั้นหลังก่อเหตุสำเร็จได้เงินมาก็นำไปเข้าคอร์สเสริมความงามในราคา 70,000 บาท ส่วนที่วางแผนลงมือก่อเหตุในวันนี้เนื่องจากต้องการนำสร้อยข้อมือไปขายหาเงินก้อนไปจ่ายค่าคอร์สเสริมความงามซึ่งลงทะเบียนจองเอาไว้ในสถานเสริมความงามที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางแค





ด้าน น.ส.สุจิตรา แสงจันทร์ อายุ 25 ปี พนักงานร้านทอง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุให้บริการลูกค้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ตามปกติ จู่ๆ นายหรั่งเดินเข้ามาหน้าตู้โดยสวมแว่นตาดำ และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าเพื่อขอดูสร้อยข้อมือน้ำหนัก 5 บาท ขณะนั้นมีลูกค้ามาเลือกซื้อขายทองคำอยู่หน้าร้านจำนวนมาก ประกอบกับผู้ต้องหาผิวพรรณดี พูดจาดี ไม่เหมือนมิจฉาชีพ คงไม่กล้าก่อเหตุร้าย จึงหยิบออกมาให้เลือกชม จำนวน 3 เส้น กระทั่งนายเอลองสวมสร้อยใส่มือ 1 เส้น ก็รีบวิ่งหนีไป จึงตะโกนให้พลเมืองดีและ รปภ.วิ่งไล่ตาม กระทั่งตำรวจมาสมทบและล้อมจับกุมตัวได้



น.ส.สุจิตรา กล่าวด้วยว่า ช่วงที่นายเอวิ่งหนีนั้น ได้มีการนำสร้อยข้อมือที่เป็นทองคำปลอมซึ่งเตรียมเอาไว้โยนทิ้งระหว่างทาง เชื่อว่าคงวางแผนเตรียมการมาเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่คิดว่าเยาวชนอายุแค่ 17 ปี จะกล้าลงมือก่อเหตุลักษณะนี้จนถูกแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ถึง 2 ครั้งซ้อนในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน จากการพูดคุยกับมารดาผู้ต้องหาทราบว่า นายเอถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีมาก ครอบครัวส่งเสียให้เรียนหนังสือที่ รร.เอกชนดีๆ วางแผนอยากให้ เรียนกฎหมาย แต่ไม่น่ามาทำแบบนี้เพียงแค่ต้องการเงินไปเสริมความงามให้ตัวเอง จึงอยากฝากบอกไปถึงนายเอว่า ให้กลับตัวกลับใจเชื่อว่าสังคมน่าจะให้อภัยอย่างแน่นอน