“ศรีสุวรรณ”บุกจี้ ป.ป.ช.ฟันตัดต้นจามจุรี

2018-08-20 10:20:10

“ศรีสุวรรณ”บุกจี้ ป.ป.ช.ฟันตัดต้นจามจุรี

Advertisement

“ศรีสุวรรณ”จัดหนักต่อเนื่องร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ผอ.เขตจตุจักรตัดต้นจามจุรี

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนเอาผิดนายปกครอง พลเมือง ผอ.เขตจตุจักร กรณีสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการตัดโค่นต้นจามจุรีขนาดใหญ่เส้นรอบวงโคนต้น 312 ซม.อายุ 50 ปีทิ้ง บริเวณริมทางเท้า ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาทั้งนี้แม้ต้นจามจุรีดังกล่าวจะขึ้นอยู่กลางแนวรั้วระหว่างที่ดินเอกชนกับแนวฟุตบาทซึ่งเป็นที่สาธารณะสัดส่วน 50/50 ก็ตาม แต่ส่วนหนึ่งอยู่ในที่ดินสาธารณะที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่ง ผอ.เขตจตุจักร มีอำนาจหน้าที่ในการดูแล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.2553



นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า การตัดโค่นต้นจามจุรีต้นดังกล่าวซึ่งส่วนหนึ่งเป็นของ กทม.ย่อมเป็นทรัพย์สินของสาธารณะ หรือของทางราชการ ซึ่งสามารถคำนวณเป็นมูลค่าได้ เพราะ กทม.ต้องเสียค่าบำรุง รักษา มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ย่อมมีค่าใช้จ่ายไปหลายแสนบาท ดังนั้น เมื่อมีการตัดโค่นย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ หรือทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์อีกด้วย แม้ ผอ.เขตจตุจักร จะกล่าวอ้างได้ว่าสามารถทำได้เพราะมีคำส่ง กทม.ที่ 370/2556 เรื่อง มอบอำนาจให้ข้าราชการ กทม.ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯกทม.ก็ตาม แต่การจะใช้อำนาจดังกล่าวต้องคำนึงถึงบริบททางกฎหมายอื่นที่บัญญัติห้ามไว้ด้วย โดยเฉพาะการทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360





“ต้นจามจุจีดังกล่าวมีขนาดใหญ่ มีเส้นรอบโคน 312 ซม. มีความยาวท่อนโคนประมาณ 10 ฟุต และท่อนปลายอีกมาก มีเนื้อไม้ปริมาตรหลายร้อยลูกบาศก์ฟุต เมื่อนำไปจำหน่ายตามระเบียบของทางราชการจะมีมูลค่าหลายแสนบาทเลยทีเดียว แต่ไม่ปรากฏว่า มีการนำท่อนต้นจามจุรีดังกล่าวไปประมูลขายหรือจำหน่ายเพื่อนำเงินเข้ารัฐ หรือเข้า กทม. ตามระเบียบว่าด้วยพัสดุ หรือตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวของ ผอ.เขตจตุจักรจึงอาจเข้าข่าย “การทุจริตต่อหน้าที่” ตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 สมาคมจึงได้มาร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อไต่สวนและเอาผิดตามที่กฎหมายบัญญัติต่อไป