“สุเทพ”โชว์เอกสาร 94 หน้าแจงสร้างโรงพัก

2018-08-17 18:10:22

“สุเทพ”โชว์เอกสาร 94 หน้าแจงสร้างโรงพัก

Advertisement

“สุเทพ” เฟซบุ๊กไลฟ์โชว์เอกสาร 94 หน้า แจงรายละเอียดสัญญาจัดจ้างก่อสร้างโครงการโรงพัก 396แห่ง ก่อนเสนอ ป.ป.ช.

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ส.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไลฟ์สด เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหาตนเองและพวกรวม 17 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ กรณีสร้างแฟลตตำรวจ 163 แห่ง และโรงพักทดแทน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2558 ผมให้ความร่วมมือกับทางป.ป.ช.โดยได้รวบรวมหลักฐานเอกสารข้อเท็จจริงต่างๆ เย็บเป็นเล่ม ทั้งหมด 94 หน้า แล้วนำไปยื่นให้คณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. เชื่อว่า ถ้าอนุกรรมการฯ ไม่มีอคติ ได้พิจารณาหลักฐานเอกสารข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่เป็นเรื่องยากเลย ที่จะพิจารณา วินิจฉัยกรณีนี้ แล้วไม่ต้องใช้เวลาหลายปี แต่ว่าเมื่อล่วงเลยมาถึงวันนี้ก็จำเป็นที่ต้องเอาหลักฐานเอกสารเหล่านั้น มาแสดงให้ประชาชน ได้เห็นประจักษ์ว่า ได้ใช้ดุลพินิจพิจารณา ด้วยเหตุ ด้วยผล ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้อง ชอบธรรม



นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ผมได้ลงนามในเอกสารหนังสือสำคัญ 3 ฉบับ โดยข้อเสนอของผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ท่าน ต่างยุคต่างสมัย ฉบับแรก เป็นหนังสือลงวันที่ 29 พ.ค.2552 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ทำบันทึกเสนอถึงผม เพื่อขอให้ความเห็นชอบแนวทางในการจัดจ้างโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจดังกล่าว ในข้อเสนอของ สตช.ตามหนังสือฉบับนี้ ได้เท้าความถึงเรื่องเดิมว่า มีความเป็นมาอย่างไรมีข้อเท็จจริง ระบุด้วยว่าสำนักงบประมาณ มีความเห็นให้ สตช.ดำเนินการในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วน คือสร้างสถานีตำรวจที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ที่มีอายุใช้งานตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จำนวน 396 และได้บอกถึงวิธีการใช้งบประมาณ โดยให้ตั้งงบประมาณปี 2552 จากงบของ สตช.มาใช้ก่อนในปีแรก 333 ล้าน ส่วนงบประมาณที่เหลือจะเป็นแบบการผูกพันงบประมารายจ่ายของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2553- 2554 แล้วให้ สตช.ไปตกลงรายละเอียดรายจ่ายกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ทั้งจะต้องเสนอครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ




นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เมื่อครม.อนุมัติโครงการนี้ให้ สตช.ไปดำเนิน พล.ต.อ.พัชรวาท ก็รายงานในหนังสือฉบับนี้ว่า เขาไปดำเนินการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาจัดจ้าง ว่าจะจ้างโดยวิธีไหน เขาก็บอกมาเสร็จว่า คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแนวทางในการจัดจ้าง 4 วิธี วิธีที่ 1 จัดจ้างโดยส่วนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบบรวมการในครั้งเดียว สัญญาเดียวทั้ง 396 หลัง วิธีที่ 2 จ้างโดยส่วนกลาง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบบรวมการในครั้งเดียว แต่แยกการเสนอราคาเป็นรายภาค ภาค 1-9 ทำสัญญา 9 สัญญา วิธี 3 จัดจ้างโดยตำรวจภูธรภาค และวิธี 4 จัดจ้างโดยตำรวจภูธรจังหวัด และก็บอกด้วยว่า คณะกรรมการฯ ซึ่งมี พล.ต.ท.พงศพัศ พงศ์เจริญ เป็นประธาน ได้ประชุมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าสมควรที่จะจัดจ้างโดย สตช.รวมครั้งเดียว แล้วแยกเสนอเป็นรายภาค ทำสัญญา 9 สัญญา บอกข้อดีมาเรียบร้อยว่า ถ้าทำวิธีนี้ ก็จะสามารถที่จะดำเนินการ ได้รวดเร็ว เมื่อเขาเสนอมาให้ผมพิจารณาก็ได้ลงนามให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2552





นายสุเทพ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นไม่นาน พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ต้องออกจากตำแหน่ง แล้วก็มี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ มาทำหน้าที่เป็น รักษาการ ผบ.ตร. เขาเสนอว่าขอยกเลิกวิธีการจัดจ้างที่ผมเคยอนุมัติไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2552 และขออนุมัติใช้วิธีการจัดจ้างโดยการประกวดราคาครั้งเดียวทำสัญญาเดียวตามเหตุผลที่ว่า ผมก็ได้ให้ความเห็นชอบไป อนุมัติไป ตามข้อ 3 คือข้อที่เขาเสนอมา เพราะฉะนั้นในการอนุมัติให้มีการใช้วิธีการจัดจ้าง โดยแยกสัญญาเป็น 9 สัญญา ตามข้อเสนอของผู้บัญชาการตำรวจคนแรก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก็ดี หรือการอนุมัติให้ยกเลิกวิธีการเก่าแล้วมาใช้วิธีการใหม่ ตามข้อเสนอของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ก็ดี ผมได้พิจารณาว่า นี่เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงาน คือ ผบ.ตร. แล้วเขาได้ตรวจสอบ เขาได้ตั้งคณะกรรมการ เขาได้ดูข้อกฎหมาย เขาได้ดูข้อระเบียบ ซึ่งแน่นอนครับ คนพวกนี้รู้ระเบียบ รู้กฎหมาย วิธีการจัดซื้อจัดจ้างดีกว่าผม เมื่อผมเห็นว่าเขามีเหตุผล ผมก็อนุมัติไปตามข้อเสนอของเขา



“ในวันที่ผมอนุมัติให้ใช้วิธีการจัดจ้างตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอนั้น ผมไม่มีโอกาสที่จะทำนายได้ล่วงหน้าครับว่าผู้ประกอบการรายใด จะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา ซึ่งเขาดำเนินการประกวดราคาหลังจากที่ผมอนุมัติถึง 7 เดือนครับ แล้ว มีการเขียน TOR มีการออกสเปค มีการประกาศเปิดรับผู้สนใจที่จะเข้าประกวดราคาอย่างกว้างขวาง แล้วก็มีผู้เข้าร่วมการประกวดราคา 5 ราย ดำเนินการประกวดราคาตามวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ คือ อีอ็อกชั่น เมื่อเขาทำเสร็จ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ก็พ้นจากตำแหน่งไป มี ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เขาก็ทำหนังสือถึงผม เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2553 ว่าขอรับความเห็นชอบราคาและขออนุมัติจ้างก่อสร้างในหนังสือนี้เขาได้บรรยายชัดเจนครับว่า เขาไปดำเนินการประกวดราคามาโดยถูกต้องอย่างไร ผู้ยื่นซองเอกสารประกวดราคา มี 5 ราย คณะกรรมการตรวจสอบแล้วว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน แล้วการเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำเมื่อวันที่ 29 ก.ค.2553 เคาะราคาแข่งกัน 73 ครั้ง ผู้เสนอราคาต่ำสุด เสนอราคา 5,848 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 540 ล้านบาท คณะกรรมการเห็นว่าสมควรที่จะรับราคานี้ ผมก็ได้ให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นผู้เสนอ ผมให้ความเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2553 จากนั้นเขาก็ไปทำสัญญาก่อสร้างกันแล้วก็ปรากฎว่าก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ในสมัยรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการอนุมัติ ให้มีการขยายเวลาตามสัญญาออกไปอีก 3 ครั้ง และในที่สุดเขาก็บอกเลิกสัญญา ป.ป.ช. ก็เอาประเด็นนี้มากล่าวหาผมว่าที่เขาก่อสร้างไม่เสร็จเนี่ยเพราะผมไปเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดซื้อจัดจ้างผมจึงเห็นว่าการกล่าวหาอย่างเนี่ยเป็นการกล่าวหาที่มีอคติ ไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงผมจะขออนุญาตกลับมาเรียนรายงานในรายละเอียดข้อเท็จจริงแต่ละเรื่อง แต่ละประเด็นเพื่อชี้ให้เห็นว่า เขาได้ตั้งข้อหาผมโดยไม่เป็นธรรมอย่างไรบ้างในวันพรุ่งนี้”นายสุเทพ กล่าว