กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรียชิงตำแหน่ง “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” จากเมลเบิร์นมาครอง หลังเมืองหลวงของออสเตรเลียเป็นแชมป์มานาน 7 ปีแล้ว
ภาพ AFP
นับเป็นครั้งแรกที่มหานครยุโรปเอาชนะการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกของเดอะอีโคโนมิสต์ยูนิต โดยในแต่ละปีจะมีเมืองหลวง 140 แห่งถูกให้คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 โดยการใช้ปัจจัยต่าง ๆ ตัดสิน ทั้งคุณภาพชีวิต, อัตราการเกิดอาชญากรรม, โครงสร้างระบบการขนส่งและการเข้าถึงการศึกษารวมถึงระบบบริการสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจอีกด้วย
ภาพ LaMiaFotografia / Shutterstock.com
การสำรวจในปีนี้กรุงเวียนนาเกือบได้เป็นเมืองในอุดมคติด้วยคะแนน 99.1 เต็ม 100 ขณะที่เมลเบิร์นร่วงลงไปอยู่ที่อันดับที่สองด้วยคะแนน 98.4 และเมืองโอซากาของญี่ปุ่นตามมาเป็นอันดับที่สาม
โดยรวมแล้ว หลายเมืองของออสเตรเลียและแคนาดาครอง 10 อันดับแรก ประเทศทั้งสองมีเมืองถึง 3 แห่งที่ติด 10 อันดับแรก โดยประเทศออสเตรเลียมีเมืองที่ติดอันดับต้น ๆ ได้แก่ เมลเบิร์น, ซิดนีย์ (อันดับที่ห้า) และแอดิเลด (อันดับที่ 10) ขณะที่แคนาดามีเมืองคัลแกรี (อันดับที่สี่), แวนคูเวอร์ (อันดับที่หก) และโตรอนโต (อันดับที่เจ็ดร่วม)
ภาพ Alex Poison / Shutterstock.com
นักวิจัยผู้จัดทำรายงานชี้ว่าเมืองที่มีคะแนนสูงสุดมักเป็นมักขนาดกลางในประเทศที่ร่ำรวยกว่า และเมืองที่ติด 10 อันดับแรกก็ค่อนข้างมีความหนาแน่นของประชากรต่ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดกิจกรรมนันทนาการได้มากกว่าโดยที่ไม่เพิ่มอัตราการเกิดอาชญากรรมหรือเกิดโครงสร้างพื้นฐานที่มากเกินไป
โคเปนเฮเกนเป็นเมืองยุโรปอีกแห่งหนึ่งที่ติด 10 อันดับแรก
ภาพ Mapics / Shutterstock.com
การสำรวจชี้ถึงเมืองที่มีการพัฒนามากที่สุดอีกด้วย โดยเมืองอาบิดจัน, ฮานอยและเตหะรานมีการพัฒนาด้านความเป็นอยู่มากที่สุดตลอดห้าปีที่ผ่านมา โดยคะแนนสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 5
ส่วนเมืองที่น่าอยู่น้อยที่สุดห้าอันดับแรกคือกรุงดามัสกัส ตามด้วยธากา, ลากอส, การาจีและพอร์ตมอร์สบีย์ ประเทศปาปัวนิวกินี