รัฐสภานิวซีแลนด์ ลงมติห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้าน เพราะทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์แพง จนทำให้คนในท้องถิ่นไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้
รัฐสภานิวซีแลนด์ มีมติ 63-57 เสียงเมื่อวานนี้ ห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้านในนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดช่องให้ชาวนิวซีแลนด์สามารถหาซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาถูกเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามครั้งใหม่ในการหยุดยั้งราคาของที่อยู่อาศัยที่พุ่งทะยานขึ้น และจะทำให้ราคาบ้านลดลง แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นโยบายใหม่นี้ เสี่ยงที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจและจะไม่ช่วยแก้ปัญหา
ราคาบ้านในนิวซีแลนด์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ โดยเฉลี่ย ราคาเพิ่มสูงกว่าร้อยละ 60 ทั่วประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเฉพาะในเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่สุดของประเทศ ราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า
ราคาที่อยู่อาศัยในนิวซีแลนด์ ถือว่าสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่งเมื่อเทียบกับรายได้ของประชาชน การจับจองเป็นเจ้าของบ้านในนิวซีแลนด์ อยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 โดยมีผู้ใหญ่เพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ก็ปรากฏว่า มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยมากขึ้น
คำสั่งห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้านทุกรูปแบบ มีขึ้นเพราะการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาตินี้เองที่ทำให้ราคาอสังหาฯนานิวซีแลนด์ พุ่งสูงขึ้น จนส่งผลให้ชาวนิวซีแลนด์เองไม่สามารถเข้าสู่ตลาดอสังหาฯได้ อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติ ยังคงสามารถซื้ออพาร์ตเม้นท์ อาคารบางส่วนในตลาดได้อย่างจำกัด
เดวิด ปาร์คเกอร์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ ระบุถึงข้อห้ามดังกล่าวว่า การห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านจะทำให้ราคาบ้านนั้นอยู่ในระดับที่คนท้องถิ่นมีกำลังซื้อไหว และอุปทานก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
โดยคำสั่งห้ามดังกล่าว บังคับใช้เฉพาะคนที่ไม่ได้สัญชาตินิวซีแลนด์เท่านั้น แต่สำหรับชาวออสเตรเลียและสิงคโปร์แล้ว ได้รับการยกเว้น เพราะมีข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกัน