กสม.ร่วมเป็นพยาน "ปู่คออี้" กะเหรี่ยงแก่งกระจาน ทำบัตรประชาชน เป็นคนไทยในวัย 107 ปี
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชน ในฐานะประธานคณะทำงานด้านสิทธิสถานะบุคคล กลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ได้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน พร้อมกับ นายโคอิ มีมิ หรือ ปู่คออี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง อายุ 107 ปี ที่เคยได้รับรางวัลบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน จากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อปี 2560 เพื่อถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ให้กับปู่คออี้ หลังจากที่ได้เพิ่มชื่อและลงรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14)
โดยได้รับการกำหนดเลขประจำตัวประชาชนนำหน้าด้วยเลข 5 (5-7608-000xx-xx-x) ภายหลังจากที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) จัดงาน “กสม.พบประชาชนภาคตะวันตก” เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2561 โดยได้เดินทางไปศึกษาสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่บ้านโป่งลึก และบ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และพบว่า ปู่คออี้ ยังไม่มีเอกสารแสดงความเป็นผู้มีสัญชาติไทย มีเพียง บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรเลข 0 กลุ่ม 89 เลขประจำตัวประชาชน 0-7608-890xx-xx-x ซึ่งประชากรส่วนหนึ่งของชุมชน ก็ยังไม่มีเอกสารแสดงความเป็นผู้มีสัญชาติไทยเช่นเดียวกัน บางส่วนอยู่ระหว่างการกำหนดสถานะบุคคล
หลังจากได้นำเรื่องนี้หารือกับคณะทำงาน โดยพิจารณาถึงการมีและได้สัญชาติไทยของ ปู่คออี้ ซึ่งเกิดที่บ้านใจแผ่นดิน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเดิมเป็นท้องที่อำเภอท่ายาง ก่อนแยกเป็นกิ่งอำเภอแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2531 ซึ่งพบว่ามีพยานหลักฐานปรากฏว่า ปู่คออี้เกิดเมื่อ พ.ศ.2454 โดยเกิดมาก่อนที่จะมีการตราพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2456 (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2456 - 12 ก.พ. 2495 ) ปู่คออี้น่าจะมีและได้สัญชาติไทยตามหลักมูลนิติธรรมประเพณี เนื่องจากในยุคสมัยนั้น ยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับสัญชาติใช้บังคับ ทางคณะทำงานจึงได้ประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการให้ ปู่คออี้ ได้รับเอกสารแสดงความเป็นผู้มีสัญชาติไทย มีชื่อและลงรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14) พร้อมจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน ที่จะทำหน้าที่ และใช้สิทธิต่างๆ เช่นเดียวกับบุคคลสัญชาติไทยทั่วไป
ความสำเร็จในการทำบัตรประจำตัวประชาชนของ ปู่คออี้ ในวัย 107 ปี ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเป็นพลเมืองไทยที่สมบูรณ์ หลังจากมีความพยายามมานับ 10 ปี