รองปลัด ยธ.แนะ กยศ.ยึดทรัพย์พ่อแม่เด็กเบี้ยวหนี้ก่อน

รองปลัดกระทรวงยุติธรรมแนะคดี “ครูวิภา” กยศ.ควรเริ่มยึดทรัพย์จากบิดามารดาหรือผู้ปกครองก่อน ในอนาคตการทำสัญญาผู้ร่วมลงนามค้ำประกันต้องเอาบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาร่วมค้ำประกันด้วย

จากกรณี น.ส.วิภา บานเย็น หรือ “ครูวิภา” ผู้บริหาร รร.แห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ถูกฟ้องดำเนินคดีหลังค้ำประกันให้นักเรียนกู้เงินกองทุนเงินให้กู้ยืนเพื่อการศึกษา (กยศ.) กว่า 60 ราย กระทั่งถูกยึดบ้านและที่ดิน ก่อนที่ กยศ. จะยื่นหนังสือขอระงับการบังคับคดีและการขายทอดตลาดทรัพย์ของครูวิภาไว้ชั่วคราว

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “การสืบทรัพย์เด็กให้สืบทรัพย์บิดามารดาด้วย เพราะการก่อหนี้ตั้งแต่เป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะทำนิติกรรมโดยที่บิดามารดาหรือผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้ และ กยศ.ควรเริ่มยึดทรัพย์เป็นลำดับจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสียก่อน จึงไปเอาผู้ค้ำ จึงจะเป็นธรรม ในอนาคตการทำสัญญาผู้ร่วมลงนามค้ำประกันต้องเอาบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาร่วมค้ำประกันด้วย กรณีการใช้ตำแหน่งค้ำประกัน ต้องกำหนดว่าข้าราชการระดับนี้มีค่าที่ใช้หลักประกันได้เป็นวงเงินเท่าใด เมื่อไปค้ำประกัน 1 คนแล้ว เหลือมูลค่าวงเงินอีกเท่าไหร่ที่จะนำไปค้ำประกันคนอื่นต่อไปได้หรือไม่ กระทำเหมือนเอาตำแหน่งไปค้ำประกันในการปล่อยตัวชั่วคราวของกระบวนการยุติธรรมก็จะลดความเสี่ยงไปได้ เว้นแต่เอาหลักทรัพย์มาค้ำ มิใช่ข้าราชการ 1 คน ไปค้ำได้เป็นร้อยเป็นพันคน”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจดังแฉ ศิษย์เบี้ยวหนี้ กยศ. กินดีมีสุข

กยศ.ลุยสืบทรัพย์ 17 ลูกศิษย์ “ครูวิภา”