หุ้นของเฟซบุ๊กร่วงลงอย่างรุนแรง เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐ สูญเงินไปถึง 119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทรัพย์สินของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ก็หายไปจากบัญชีหลายแสนล้านบาทเช่นกัน
เมื่อวานนี้ เฟซบุ๊กเผชิญหน้ากับวันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อหุ้นของบริษัทปิดตลาดดิ่งลงรุนแรงถึงร้อยละ 19 สูญเงินไป 119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 4 ล้านล้านบาท หลังจากรายงานผลประกอบการของบริษัทโซเชียล มีเดียยักษ์ใหญ่แห่งนี้ พบว่าการใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นตลาดโฆษณาที่ใหญ่ที่สุด ลดลง เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของเฟซบุ๊กในรอบ 6 ปี ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัทมหาชน นอกจากนี้ ยังทำให้ทรัพย์สินของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ประธานบริหารของเฟซบุ๊ก หายไปจากบัญชีทันที 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 4 แสนล้านบาท ในรอบไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยทรัพย์สินสุทธิของซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ขณะนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 74,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก
ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของเฟซบุ๊ก เคยเตือนว่า ผลกำไรของเฟซบุ๊กจะร่วงลง ขณะที่ทางบริษัทกำลังพัฒนาระบบการรักษาความลับของข้อมูลส่วนตัว
ทั้งนี้ หุ้นของเฟซบุ๊ก ดิ่งลง 41.24 ดอลลาร์ เหลือ 176.26 ดอลลาร์ หลังจากไม่สามารถปฏิบัติตามการประเมินของวอล สตรีท สำหรับการเพิ่มลูกค้า และรายได้รายไตรมาส
การดิ่งลงของหุ้นเฟซบุ๊ก ทำให้แนสแดค ร่วงลงกว่าร้อยละ 1 ในการปิดตลาดเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดในวันเดียวในรอบ 1 เดือน แต่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสหรัฐและสหภาพยุโรป หรืออียู แถลงว่า พวกเขาจะเจรจาเรื่องการค้ากันอีกครั้ง โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 114.39 จุด หรือร้อยละ 0.45 อยู่ที่ 25,528.49 จุด, เอสแอนด์พี 500 ลดลง 8.6 จุด หรือร้อยละ 0.30 อยู่ที่ 2,837.47 จุด และแนสแดค ลดลง 80.05 จุด หรือร้อยละ 1.01 จุด ปิดที่ 7,852.19 จุด