รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลานชุดใหม่ พร้อมคณะกรรมการสงฆ์ สำนักพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้าติดตามตรวจสอบเงินวัดบางคลาน เป็นวันที่ 2 โดยนับเงิน ไปแล้ว กว่า 2.9 ล้านบาท และดำเนินการตรวจนับที่เหลือ อีก 12 ตู้ คาดจะมียอดเงิน 4-5 ล้านบาท
ที่วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร วัดหลวงพ่อเงิน ทางคณะสงฆ์ พร้อมด้วย รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน พร้อมกับตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาพิจิตร ทหาร ตำรวจ และกองกำลังอาสาสมัคร จำนวนกว่า 50 นาย ยังคงเข้าตรวจสอบเงินบริจาคของทางวัดบางคลาน เป็นวันที่ 2 โดยบรรยากาศ ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ชาวบ้านที่สนับสนุนเจ้าอาวาสองค์เก่า มีจำนวนน้อยลง เหลือประมาณ 10-20 คน ที่ยังคงปักหลัก อยู่ที่กุฎิเจ้าอาวาสองค์เก่า ซึ่งไม่ออกมาขัดขวางเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบ
ทางด้านพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลานองค์ใหม่ ระบุว่า หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบตู้บริจาคเงินในวิหารหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานทั้งหมด 28 ตู้และได้เปิดตรวจสอบนับเงินบริจาคไปแล้ว16 ตู้ได้ยอดเงิน ที่ประชาชนมาร่วมทำบุญ 2,900,000 บาท และในส่วนของตู้บริจาคที่ยังไม่ได้เปิดออกมานับอีก12 ตู้ คาดว่ายอดเงินจะได้เงินทั้งหมดประมาณ 4-5 ล้านบาท และจะได้นำเงินที่ประชาชนได้มาร่วมทำบุญรวมทั้งหมดไปฝากธนาคารในชื่อบัญชีของวัดบางคลาน
สำหรับ การเข้าตรวจสอบเงิน วัดหลวงพ่อเงิน เกิดขึ้นภายหลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2557 ได้มีการฟ้องร้องตามมติคณะสงฆ์ว่าอดีตเจ้าอาวาส ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่สามารถบริหารวัดได้ และ มีมติคำสั่งศาลจังหวัดพิจิตร ให้พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและ ให้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินทุกรายการให้กับทางวัดและห้ามจำหน่ายวัตถุมงคล แต่ที่ผ่านมาอดีตเจ้าอาวาส ไม่ได้ปฏิบัติตาม และมีการฟ้องกลับพระชั้นผู้ใหญ่ จนมีข้อไกล่เกลี่ยให้อดีตเจ้าอาวาสปฏิบัติคืนบัญชีทรัพย์สินเพื่อให้ พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลานองค์ใหม่ และไวยาวัชกร ชุดใหม่เข้ามาบริหารตามกฎหมาย รวมทั้งตรวจนับเงินและตรวจสอบบัญชีทั้งหมดของวัด แต่ทางพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสองค์เก่า ยังคงอยู่ในวัด และ มีชาวบ้านที่สนับสนุน ขัดขวางเจ้าหน้าที่ จึงส่งผลทำให้ตลอดระยะ 4 ปี เจ้าอาวาสองค์ใหม่ และ คณะกรรมการ ไม่สามารถเข้าตรวจสอบบัญชีได้ จนทางเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบได้ ในตอนนี้
