ยันไม่ได้พาหนี! แม่และญาติ “โอปอ” บุกร้อง ผวจ. หวั่นลูกไม่ปลอดภัย

2018-07-23 17:55:58

ยันไม่ได้พาหนี! แม่และญาติ “โอปอ” บุกร้อง ผวจ. หวั่นลูกไม่ปลอดภัย

Advertisement

ญาติและแม่ น.ส.ประภาพรรณหรือโอปอ ภูอุทา บุกเข้าพบ ผวจ.กาฬสินธุ์ ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกสาวเข้ามอบตัวต่อผู้ว่าฯ และร้องศูนย์ดำรงธรรมแฉตำรวจเอี่ยวยาบ้า แต่กลับหายไร้ร่องรอย ยืนยันครอบครัวไม่ได้พาหนี หายตัวไปหลายวันหวั่นจะไม่ปลอดภัย ขณะที่ตำรวจยังพลิกแผ่นดินติดตามหาเชื่อญาติพาหลบหนี พร้อมวอนญาติพาเข้ามอบตัวหากมั่นใจในความบริสุทธิ์

กรณี น.ส.ประภาพรรณ หรือโอปอ ภูอุทา อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม คดีค้ายาบ้า 4,000 เม็ด แต่เป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ซึ่งถูกคนร้าย 5 คน กระชากหัวอุ้มขึ้นรถเหตุเกิดหน้าจวน ผวจ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ภายหลังจากที่ น.ส.ประภาพรรณ ผู้เสียหายคดีเรียกค่าไถ่รู้ว่าตนเองเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้าด้วย จึงเข้าพบ ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานที่ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่เอี่ยวยาเสพติดไปมอบให้กับศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ แต่หลังจากให้ข้อมูลเรียกร้อง น.ส.ประภาพรรณฯ ผู้ต้องหา กลับล่องหนหายตัวไปอย่างลึกลับ และทราบว่า นายอดิศร ภูอุทา น้องชายแท้ๆ ได้แอบเข้ามาพาหลบหนีไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เวลา 14.30 น.วันที่ 23 ก.ค. มีรายงานว่า ที่ห้องทำงานชั้น 2 ของ ผวจ.กาฬสินธุ์ ศาลากลางหลังใหม่ นางกันยารัตน์ ภูอุทา อายุ 44 ปี แม่ของ น.ส.ประภาพรรณ หรือโอปอ และ นายคมกฤษณ์ สิทธิจินดา อายุ 51 ปี เป็นลุง และนายอดิศร ภูอุทา น้องชายที่พา น.ส.ประภาพรรณฯ หลบหนี ได้เข้าพบ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ เพื่ออธิบายเรื่องราวและร้องขอความเป็นธรรมหลังจากที่ลูกสาวได้หลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยทั้งสามคนมีท่าทีรุกรน ซึ่งผู้ว่าฯ ได้เปิดโอกาสให้พบประมาณ 5 นาที จากนั้นได้พาทั้งหมดลงไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ข้อมูลและเรื่องราวร้องทุกข์ ทั้งนี้การให้ปากคำไม่อนุญาตให้สื่อเข้ารับฟัง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่




นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า แม่ของ น.ส.ประภาพรรณฯ ได้ติดต่อมาเพื่อของอธิบายถึงเรื่องราว ซึ่งก็เป็นสิทธิ์และตนก็รับฟัง แต่อย่าลืมว่า น.ส.ประภาพรรณฯ นอกจากเป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็เป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้า ตามหมายจับของศาลจังหวัดมหาสารคาม เมื่อต้องการเข้ามาร้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรมแทนลูกสาวก็เปิดโอกาสให้ แต่สิ่งสำคัญขณะนี้ น.ส.ประภาพรรณฯ ควรที่จะออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีจะเป็นการดีที่สุด

นายไกรสร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเชื่อในกระบวนการยุติธรรมเป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ซึ่งในส่วนที่มีการร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ น.ส.ประภาพรรณ ที่เคยมาร้องไว้เมื่อวันที่ 18 ก.ค.รวมถึงวันนี้ที่เป็นญาติของ น.ส.ประภาพรรณ ตนก็จะดำเนินการตามขั้นตอนตามระเบียบต่อไป



ด้านนายคำกฤษณ์ สิทธิจินดา อายุ 51 ปี ลุงของ น.ส.ประภาพรรณ กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงหลานและยืนยันว่า ญาติไม่ได้พาหลบหนี แต่การหลบหนีนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ครอบครัวรู้สึกเป็นห่วงหลาน หวั่นว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และเชื่อว่าเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยุ่งเกี่ยวแน่นอน

ทั้งนี้มีรายงานว่าการเข้าร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกถ้อยคำอย่างละเอียด โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะทั้งหมดจะแยกย้ายกลับ