พ่อของเจ้าบ่าวเทงานแต่งงาน “น้องมะนาว”เผยวันแต่งติดต่อลูกชายไม่ได้เลย ทั้งที่ทางบ้านจัดเตรียมขบวนขันหมากเรียบร้อยแล้ว ลั่นเสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือนกันต้องสู้ต่อไป อ้างฝ่ายเจ้าสาวกลับคำพูดในเรื่องค่าสินสอดบอกจะออกเองทั้งหมด
จากกรณีที่โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปวิดีโอ “น้องมะนาว” ว่าที่เจ้าสาวสุดสตรอง ที่ไร้เงาเจ้าบ่าวอยู่ข้างกายในวันสำคัญของเธอ โดยเธออยู่ในชุดเจ้าสาวยืนอยู่บนเวทีคนเดียวในงานเลี้ยงซึ่งจัดขึ้นที่ จ.ราชบุรี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า หนูกราบขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน วันนี้หนูได้ทำหน้าที่เจ้าสาวดีที่สุดแล้วนะคะ อยากขอบคุณพ่อกับแม่หนู ที่จัดงานให้หนูในวันนี้ หนูคิดว่าหนูทำหน้าที่ลูกคนหนึ่ง คิดว่างานนี้เป็นงานของหนู เป็นงานของพ่อกับแม่และหนูที่จัดขึ้นในวันนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้หนูไม่ทราบมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นแบบนี้ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนนะคะ คิดว่าเพื่อนเจ้าสาวทุกคนคงจะรักและเป็นกำลังใจให้เจ้าสาวคนนี้ ถ้ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งบกพร่อง ทางเจ้าภาพ ทางพ่อ ทางหนูดูแลไม่ทั่งถึงในวันนี้ หนูต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณทุกกำลังใจที่มาในงานนี้ ขอบคุณค่ะ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 2 ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวนิว 18 ได้เดินทางไปพบกับนายภาคิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เจ้าบ่าวที่เทงานแต่งงาน ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 1 ต.บ่อกระดาน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านทรงไทยที่กำลังจะปลูกและเปิดเป็นอู่ซ่อมรถด้วย เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่ไปแต่งงาน ซึ่งก็พบนายภาคิน อยู่กับนายอเนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้เป็นพ่อ โดยทั้งสองคนได้เปิดใจถึงสาเหตุที่ไม่ไปร่วมงานแต่งงานที่เกิดขึ้น
นายอเนก กล่าวว่า ในวันแต่งติดต่อกับลูกชายไม่ได้เลย โดยในวันที่ไปสู่ขอก็บอกไปแล้วว่ายังไม่มีเงิน ทางเจ้าสาวก็บอกว่าจะเป็นคนออกเองขอให้พ่อพาลูกชายไปอย่างเดียว ขออย่าให้พ่อแม่ของเขารู้ว่าเงินค่าสินสอดนั้นเจ้าสาวจะเป็นคนออกเอง ซึ่งทางบ้านก็ได้จัดเตรียมของในขบวนขันหมากเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อไม่มีตัวเจ้าบ่าวก็เลยไม่ได้ไป มาถึงตอนนี้ก็คงจะต้องสู้กันและยอมรับกัน ทางฝ่ายตนก็เสื่อมเสียชื่อเสียงเหมือน เพราะได้ทำตามที่เจ้าสาวได้ขอมาแล้ว และลูกชายก็เพิ่งจะอายุ 18 ปี แต่เจ้าสาวมากลับคำพูดในเรื่องค่าสินสอดที่บอกว่าจะออกเอง แต่ถึงเวลาแล้วมากลับคำพูด ซึ่งระยะเวลาแค่วันเดียวทำให้หาไม่ทัน ได้เสนอไปว่ามีเงินแค่ 6 หมื่นบาท ทางฝ่ายเจ้าสาวก็ยินยอมและขอให้แค่งานได้ผ่านไป แต่ทางลูกชายนั้นไม่รู้ว่ามีการตกลงเงินกันแค่ 6 หมื่นบาท แต่รู้แค่ว่าไม่มีเงินก็เลยต้องหนีไป
ด้าน นายภาคิน กล่าวว่า ที่คุยกับเจ้าสาวไว้เรื่องค่าสินสอดว่าทางบ้านผมนั้นไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยขอให้ทางเจ้าสาวช่วยหาเงินค่าสินสอดทั้งหมดได้ไหม ซึ่งเจ้าสาวก็ตอบตกลง และก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จนใกล้ถึงงานแต่งอีก 2 วัน เจ้าสาวก็ทักไลน์มาบอกว่า ได้นำเงินค่าสินสอดไปใช้จ่ายในงานหมดไปแล้ว 9 แสนบาท และให้ทางผมหาค่าสินสอดไป ซึ่งระยะเวลาแค่ 2 วัน นั้นหาไม่ได้ ซึ่งผมกับเจ้าสาวนั้นคบกันและคุยกันประมาณ 1 เดือน ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไปสู่ขอให้และเขาเรียกค่าสินสอด 2 แสนบาท กับทองอีก 4 บาท สาเหตุที่ไปขอนั้นก็เพราะเจ้าสาวบอกว่าเขาท้อง จึงต้องให้ญาติผู้ใหญ่เข้าไปสู่ขอ โดยขอยื่นข้อเสนอว่าจะขอแค่ไปไหว้ผี เท่านั้น แต่ตัวเจ้าสาวนั้นไม่ยอม ในวันแต่งงานนั้นก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรเพราะเงินค่าสินสอดไม่มี และตนก็มีแฟนอยู่แล้วประกอบกับไม่มีเงินด้วยจึงตัดสินไม่ไปงานแต่ง และมันเร็วเกินไปที่จะแต่งงานและยอมรับไม่พร้อมเลย ตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออกเพราะถูกโจมตีเยอะมาถึงตอนนี้ก็คงจะกลับไปไม่ได้แล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"น้องมะนาว"วิวาห์ล่มปัดขออาฝ่ายชายเสียบแทนเจ้าบ่าว
“เจ้าบ่าว”เปิดใจไร้สินสอดไม่แต่ง “น้องมะนาว”
สุดสตรอง!เจ้าสาววิวาห์ล่มขึ้นเวทีขอบคุณแขก
