ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษานี้ จะมีเงินสะพัด 6,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 4.10% เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ที่ 5,569 บาท
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษาปี 2561 จากตัวอย่าง 1,238 คนทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ใน กทม.และปริมณฑล มีการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยว ทำบุญ และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่จะทำในช่วงวันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษาคือการทำบุญตักบาตร สะท้อนว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นและกระจายตัวมากขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รายจ่ายมากกว่ารายรับ โดยประชาชนส่วนใหญ่ มองว่า สภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันกำลังฟื้นตัว แต่เป็นการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และเชื่อว่าจะเริมฟื้นตัวได้ชัดเจนในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 และพรที่จะขอในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ส่วนใหญ่ตอบว่า ขอให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีโชคลาภ หมดหนี้สิน สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน บ้านเมืองสงบสุข และเศรษฐกิจไทยดีขึ้น
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า หอการค้าไทย ประเมินว่า ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาปี 2561 จะมีเงินสะพัดอยู่ที่ 6,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 4.10% เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ที่ 5,569 บาท พร้อมทั้งยังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะโตอยู่ที่ 4.5-5 % และจะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง โดยจะต้องสำรวจกรณีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์เรือล่มที่จ.ภูเก็ตต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ ก่อนปรับประมาณการณ์ใหม่ในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้
