หมอแนะคนใกล้ชิดสังเกตทีมหมูป่าช่วงพักฟื้น

2018-07-19 12:05:53

หมอแนะคนใกล้ชิดสังเกตทีมหมูป่าช่วงพักฟื้น

Advertisement

กรมสุขภาพจิตเผยผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ แนะทีมสุขภาพจิตในพื้นที่ ผู้ปกครอง พระ ครู เฝ้าระวังสัญญานเตือนทางใจทีมหมูป่าอะคาเดมีต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาล ระบุไม่ควรถูกกดดันให้เล่าประสบการณ์การติดถ้ำช่วงนี้ ที่สำคัญเด็กควรได้รับการปกป้องไม่ให้เผชิญกับสื่อ ควรลดเวลาดูทีวี อินเทอร์เน็ตระลึกประสบการณ์ติดถ้ำ

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการติดตามดูแลสภาวะสุขภาพจิตของทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนภายหลังกลับไปอยู่บ้านว่า กรมสุขภาพจิตได้วางแผนการติดตามดูแลเด็กและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประชุมร่วมกับทีมเอ็มแคทและทีมสุขภาพจิตของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และศ.พญ.รีเบคคา ไซย์ เชอริฟ ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพจิตเด็กของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ที่ศึกษาเรื่องผลกระทบของเด็กที่ประสบภาวะวิกฤติและการบาดเจ็บ



อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำว่า เด็กและโค้ช ทั้ง13 คน ควรได้รับการดูแลจิตใจจากบุคคลที่คุ้นเคย เช่น ครอบครัว เพื่อน ครู หรือพระ หรือผู้ที่ทีมหมูป่ามักไปปรึกษา ควบคู่กับการเพิ่มความเข้มแข็งทางจิตใจของทีมหมูป่าให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เด็กๆไม่ควรถูกกดดันให้เล่าประสบการณ์การติดถ้ำในช่วงนี้เด็กและโค้ชอาจมีความรู้สึกตื่นกลัว ซึ่งไม่ใช่อาการผิดปกติที่รุนแรง การปลอบโยนจะช่วยให้เด็กดีขึ้น ประการสำคัญเด็กควรได้รับการปกป้อง ไม่ให้ต้องเผชิญกับสื่อหรือหน่วยงานใดๆ นอกเหนือจากกลุ่มบุคคลที่คุ้นเคยที่คอยดูแล และหากเป็นไปได้ควรลดเวลาไม่ให้เด็กดูทีวีหรืออินเทอร์เน็ตหรือการดูสื่อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากเกินไป เพื่อลดการรับตัวกระตุ้นที่ทำให้ย้อนระลึกประสบการณ์ติดถ้ำ




“ช่วงพักฟื้นนี้มีข้อแนะนำคนใกล้ชิดเด็กๆ และโค้ช ได้แก่ พ่อแม่ ผู้ปกครองและครู ให้สังเกตสัญญาณเตือนของอาการผิดปกติทางจิตใจ ได้แก่ ซึมเศร้า แยกตัวเอง ฝันร้าย นอนไม่หลับ แยกตัว หงุดหงิดง่าย เหล่านี้เป็นอาการที่อาจพบได้ในผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤติ ซึ่งต้องได้รับการประเมินและการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเด็กอย่างละเอียดต่อไป” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว



ด้าน นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผอ.รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า บทบาทหน้าที่หลักในการติดตามดูแลเด็กและโค้ชหลังออกจาก รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์จะเป็นของทีมสุขภาพจิต จ.เชียงรายซึ่งเป็นผู้คุ้นเคยและใกล้ชิดกับครอบครัวทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ได้ดูแลตั้งแต่ระยะเฝ้ารอที่ปากถ้ำหลวง ส่วนทีมของกรมสุขภาพจิต ประกอบด้วย รพ.สวนปรุง สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์และศูนย์สุขภาพจิตที่1 จ.เชียงใหม่จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านวิชาการและการช่วยเหลือที่เกินขีดความสามารถของทีมสุขภาพจิต จ.เชียงราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ให้ข้อเสนอแนะที่สำคัญในเรื่องการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานสำหรับการประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพจิตของเด็กและโค้ชจากครอบครัว ครู และคนอื่นๆ เช่น ความเจ็บป่วยทางจิตใจที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ ประวัติการพัฒนาการ ประวัติบาดแผลทางจิตใจ ประวัติครอบครัว รวมทั้งการให้ความรู้กับคนใกล้ชิดของเด็กๆ และโค้ช คือพ่อแม่-ผู้ปกครอง พระ ครู ให้มีความรู้ด้านสุขภาพจิตเบื้องต้น โดยเฉพาะสัญญาณเตือนถึงอาการและพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ อย่างไรก็ตามในการติดตามเฝ้าระวังนี้ ทางกรมสุขภาพจิตก็มีเครื่องมือช่วยประเมินสภาพจิตใจที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมสุขภาพจิตจังหวัดเชียงรายตลอดเวลา