ผลกรรมที่ทำมา "กันยา" ต้องชดใช้อย่างสาสม

2018-07-19 10:45:57

ผลกรรมที่ทำมา "กันยา" ต้องชดใช้อย่างสาสม

Advertisement

"ทั้งๆ ที่รู้เธอมีเจ้าของ แต่หัวใจมันเรียกร้อง ฉันจึงจำต้องยอมทน เหมือนเวรกรรมเก่า ติดตามไม่อาจหลุดพ้น ไม่คิดไม่แคร์ผู้คน ที่เขานินทาว่าร้าย..." กรรมแสนทุกข์ทนของคนที่สาม ? "กันยา" ลูกพี่ลูกน้องคนสวย เด็กสาวจากนิวยอร์ก หัวนอกมีความคิดทันสมัย คนรู้ทั้งรู้ว่า "ธาดา" คือสามีของ "อรุณา" (ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาว) ก็ยังยอมเป็นบ้านน้อย นั่นเขาเรียกกรรมหนัก ตัดไม่ขาด เลิกไม่ได้เพราะหักห้ามใจไม่ได้ คิดว่าตัวเองรักและขาดเขาไม่ได้ ขณะที่ตัวเองยังเสียวซ่านกับความสุข สนุกที่แย่งมาได้สำเร็จ แต่ก็ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับ "อรุณา" และ "นุดา" (ลูกสาวธาดา) ที่ขมขื่น ทุกข์ทรมานปางตาย ...



สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นของ "อรุณา" อาจเรียกได้ว่าเป็นผลของกรรมเก่าจากหลายๆ ชาติภพที่อรุณาอาจไปแย้งคนรักของอีกฝ่ายมา แล้วชาตินี้เขากลับตามมาเอาคืน จองเวรไม่จบไม่สิ้น ทุกข์ไม่จบไม่สิ้น หากชาติภพหน้าไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับชีวิตของอรุณาอีก อรุณาจงตัดกรรมเสีย อโหสิกรรม อย่าจองเวร โกรธแค้น สาปแช่ง "กันยา" อีกเลย ยกให้เป็นอภัยทานแด่องค์พระพุทธเจ้า และปวารณาตนยึดมั่นในศีลข้อ 3 (กาเมสุมิจฉาจารา) ให้แน่นหนัก ณ วันนี้อาจจะยังทำใจไม่ได้ สักวันก็จะดีขึ้นเอง






กาเมสุมิจฉาจารานั้น แปลเป็นไทยตรงๆ คือ การแย่งคนรักของบุคคลอื่น คำว่าคนรักนั้น ไม่จำกัดความว่า ต้องเป็นลักษณะสามีภรรยาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อบุตร ความรักต่อเจ้านายที่มีต่อลูกน้อง และสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของด้วย ง่ายๆ คือความรักระหว่างสิ่งมีชีวิต ถ้าเราไปยื้อแย่งความรักนั้น โดยไม่ขออนุญาต "เจ้าของ" เสียก่อน อย่างนี้จะถือว่าผิดกาเมสุมิจฉาจาราเช่นกัน





ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นผู้ชายและมีแฟน แล้วไปมีเพศสัมพันธ์กับแฟน แม้ว่าฝ่ายหญิงจะยินยอม แต่ถ้าฝ่ายชายไม่ได้ไปขออนุญาตพ่อแม่ของฝ่ายหญิงก่อน อย่างนี้ถือว่าชายหญิงคู่นั้นผิดกาเมสุมิจฉาจารา เพราะทำให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเสียใจหากรับทราบเรื่องนี้ทีหลัง ถ้ากระทำโดยปิดบังพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็เท่ากับผิดศีลข้อ 4 มุสาวาทาร่วมอีกด้วย (ในทางพุทธจะถือว่าบุตรีเป็นสมบัติของพ่อแม่) ... กรณีพ่อแม่ตายแล้ว ก็ดูอีกว่าผู้ปกครองคือใคร ใครคือเลี้ยงดูบุตรีในขณะนั้น อาจจะเป็น ตา ยาย ปู่ ย่า หรือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายไหน ก็ต้องขออนุญาตพวกเขาก่อนเช่นกัน





เช่นเดียวกับการไปแย่งลูกคนอื่นมาเลี้ยง แม้จะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี แม้เด็กจะอยากอยู่กับพ่อแม่ใหม่ แต่ถ้าพ่อแม่แท้จริงของเด็กไม่ยินยอม ก็ผิดศีลข้อ 3 เช่นกัน ... แย่งเอาลูกหมามาเลี้ยง พรากลูกหมาจากแม่หมา อย่างนี้ก็ผิดเช่นกัน เมื่อผิดกาเมฯ ก็มีผลเสี่ยงต่ออบายภูมิในชาติถัดไป ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน .. ขอให้ระวังตรงนี้ให้มาก



ขณะเดียวกัน "กันยา" ที่แย้ง "ธาดา" ไปได้สำเร็จนั้น แรกรักแรกเสน่หาทุกคู่มักมีความสุข แต่สนุกหรรษาแค่เพียงชั่วคราว ซึ่งไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะไม่ถูกแย้งไปอีก บางคู่อยู่กันจนแก่เฒ่าก็มีเพราะผลของเวรกรรมที่ต่างฝ่ายต่างต้องชดใช้กรรมต่อกัน เหล่านี้มักจะไม่สุขทนทานมักมีแต่เรื่องให้ทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ก็ตัดขาดไม่ได้เพราะกรรมยังเชื่อมโยงกันอยู่





ทำไม ? "กันยา" ถึงกล้าแย่งคนรักของพี่สาวตัวเองได้ลงคอนั้น อาจแสดงว่าในอดีตเคยเป็นบุคคลที่ถูกทิ้งบ่อยๆ หาคนจริงใจไม่ได้ คนอย่าง "กันยา" มักจะมีสามีหลายคน เป็นบุคคลประเภทโหยหาความรัก ชอบให้คนที่ตัวเองพึงใจเอาใจใส่ แม้เขาเหล่านั้นจะมีคู่แล้วก็ไม่สนใจ ผู้หญิงแบบนี้ลึกๆ แล้วเป็นคนใจบาป กรรมหนักจะส่งผลให้ หาคนที่รักจริงไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่เข้ามามักจะตักตวงเอาแต่ความสุขและจากไป หากยังหลงมัวเมาอยู่กับความสนุกเพียงชั่วครู่ บั้นปลายชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับศพเดินได้



ส่วน "ธาดา" ที่ก่อเรื่อง "กิเลส ราคะ" ไม่เคยพอก็ทำให้กลายเป็นคนโลเลตัดสินใจอะไรๆ ไม่เป็น มักเป็นคนขลาดเขลา หยิ่งผยองที่คิดว่าตัวเองมีดี คนเหล่านี้บั้นปลายชีวิตช่างน่าสงสาร ย่อมเป็นที่น่ารังเกียจของคนทั่วไป ... 





ฝ่าย "ธาดา" นั้น จงอย่าบอกว่าขาด "กันยา" ไม่ได้ เพราะฝ่าย "อรุณา" ก็ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากขาด "ธาดา" ไม่ได้เช่นกัน หากคนกลางอย่างธาดาเลือกคนใหม่เพราะหลง และรักสนุก "อรุณา" จงปล่อยไปเสีย เพราะหากเขาไม่สุขจากการทำชั่ว เขาคงไม่ทำ เมื่อเห็นทุกข์มักจะเห็นธรรมตามมา


"ปล่อยละค่ะ" อรุณา กล่าว


"ดีครับดีมาก"  วศิน กล่าว


"ผัวพี่หรือคะ กันยาไม่สน"


เปลี่ยนตัวเองใหม่ เพื่อชีวิตที่ต้องก้าวต่อไป


กรรมใครกรรมมัน #เมีย2018


ถ้าป่วยก็ไปหาหมอซะนะ กันยา