ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จัดชุดใหญ่สางคดีแก๊งกระชากหัวและเครือข่ายมันทุกเม็ด ชี้ตำรวจเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง เผยสัปดาห์หน้าหมายจับ จ.มหาสารคามออกแน่
กรณี 5 คนร้าย ขับรถเก๋งปาดหน้าคู่กรณีซึ่งเป็นรถเก๋ง อีกคันก่อน มีชายฉกรรจ์สองคนลงไปทำร้ายร่างกาย และปรากฏมีชายฉกรรจ์อีก 1 คน ลงมาจากรถกระบะสีแดงสี่ประตู ตรงเข้าไปเปิดประตูรถคู่กรณีแล้วทำการฉุดกระชากหัว นส.เอ นามสมมุติ อุ้มตัวหายไป จากนั้นผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนของหญิงสาวได้เข้าไปแจ้งความยัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่าเพื่อนถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 จากนั้นวันต่อมา ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เร่งติดตามสามารถจับตัวคนร้ายได้ 3 คน และเมื่อวันที่ 13 ก.ค. คนร้ายที่เหลืออีก 2 คน ซึ่งเป็นหัวโจก ได้เข้ามามอบตัวต่อ ผวจ.กาฬสินธุ์ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า คดีคนร้าย 5 คน ลงมือเรียกค่าไถ่ โดยกล้องวงจรปิดจับภาพถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 4 เข้าประสานกับ ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรใน 2จังหวัดคือ จ.กาฬสินธุ์ และ จ.มหาสารคาม ให้เร่งติดตามเครือข่ายมาดำเนินคดีให้หมด เพราะกรณีนี้ผลการสืบสวนแน่ชัดว่าเป็นการหักหลังกันในเรื่องของขบวนการค้ายาบ้า ซึ่งข้อมูลจากทาง จ.กาฬสินธุ์ ทราบด้วยว่า ยังไปเกี่ยวพันกับแก๊งมันทุกเม็ด ซึ่งตำรวจภูธรภาค 4 กำลังเร่งติดตามอยู่
“คดีนี้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ จุดเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 เป็นเรื่องของผู้เสียหายและญาติผู้เสียหาย แจ้งความเป็นคดีที่ตำรวจจะดำเนินการในข้อหาเรียก ค่าไถ่ ส่วนที่สอง คือการขยายผล ในส่วนของผู้เสียหาย ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน จ.กาฬสินธุ์ ไปขอความร่วมมือ ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองมหาสารคาม ไปตรวจสอบห้องพักผู้เสียหาย คือ น.ส.เอ นั้น เพราะไปค้นเจออุปกรณ์การเสพยาบ้าในรถของผู้เสียหาย จนไปพบยาเสพติดจำนวน 4,000 เม็ดภายในห้องพักนั้น ขณะนี้ทราบว่า เพื่อนของผู้เสียหายที่ไปแจ้งความนั้นตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษ ยาบ้า ไปแล้ว 1 คน ส่วนอีก 1 คน นั้น กันได้กันเป็นพยานในคดี และแน่นอนว่าเมื่อมีการซัดทอดไปถึง น.ส.เอ ทราบว่าในสัปดาห์นี้ ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม จะทำการออกหมายจับภายหลังจากที่ผลการสืบสวนมีความชัดแจ้ง”
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวต่อว่า ในกรณีแก๊ง “มันทุกเม็ด” ขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้ออกติดตามคดีนี้แล้ว ซึ่งหากพบว่าไปเกี่ยวพันกันก็จะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากไปพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น เพราะยาเสพติดบ่อนทำลายสังคม ทำลายชาติ พี่น้องประชาชนทุกคนจะต้องร่วมมือกันต่อต้านและร่วมแจ้งเบาะแสในการจับกุมด้วย