เจอดราม่าบนโลกโซเชียลเรื่องภรรยาของนักแสดงหนุ่ม "แอม พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์" หวงลูกสุดๆ และไม่อยากให้ใครที่มาเจอจับตัวลูกเพราะกลัวลูกป่วย งานนี้พอเจอหนุ่มแอมและภรรยาเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ ได้ความว่า
มีข่าวว่าภรรยาค่อนข้างหวงลูกมากๆ?
แอมป์ : "นี่เป็นครั้งแรกที่ห่างลูกที่สุดในชีวิตแล้ว ปกติไม่เคยทิ้งลูกเลย คือต้องบอกว่า เราก็อยากให้จับทุกท่านนะ คือทุกคน เวลาคนไทยเห็นเด็กก็จะแบบน่ารักจัง แต่ลูกผม เมื่อกี้บนเวทีเขาจะดูดมือตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลาที่คนไปจับ สิ่งแรกเขาไม่ได้จับหน้า เขาจับมือก่อน พอจับมือปุ๊ปไม่ได้ล้างเขาก็ดูดมือก่อนก็เลยกลัวว่าจะติดเชื้อโรค จริงๆเราก็ไม่ได้หวงลูกอะไรหรอก
เลยประเด็นดราม่าในอินสตาแกรม?
เบลล์ : “ดราม่าด้วยเหรอคะ ไม่ทราบ เราก็แค่ห่วงความสะอาดนิดหน่อย เพราะเหมือนแบบก็เข้ามาจับ แล้วเราก็ไม่ทันจะพูดอะไร แล้วมีช่วงนึงน้องเขาเป็นหวัด น้องเขาเอาเข้าปากบ่อย เราก็เลยนิดนึง น้องยังเล็กอยู่ด้วย
แอมป์ : "คือตั้งแต่ที่ตอนเป็นข่าว มีคนเดินมาขอโทษนะ วันนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจจะจับ บางคนแบบ อ้าว เฮ้ย...อี๊ขอโทษวันนั้น อี๊พึ่งเห็นข่าวว่าคุณแม่หวงลูก แต่จริงๆแล้วคือเราไม่ได้หวงลูก แต่ว่าเราก็แค่เป็นห่วงว่าเด็กๆ รักษาความสะอาด คือเราก็เผื่อไว้ โตขึ้นจะเล่นยังไงก็เต็มที่นะครับ แต่อย่าหยิกนะครับ(หัวเราะ)
จับได้แต่ให้เลี่ยงการจับมือใช่ไหม?
แอมป์ : "คือในช่วงแรกก็ไม่ควรเลยเนอะ จริงก็อยากให้แบบเป็นวัฒนธรรมไหม อย่างเมืองนอกนี่ไม่ได้เลยนะครับ จับมาโดนฟ้อง แต่อันนี้เราก็เป็นคนไทยเนอะ เราก็อยากให้จับลูกนั่นแหละ แต่รอสักหน่อยนึง รอให้เขาเล่นได้ รอให้เขาโตสักหน่อยนึง แล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาพาลูกไปหาหมอ ลูกเป็นอะไร คือทุกคนก็รักลูกหมดแหละครับ"
เรื่องควันบุหรี่ข้างห้อง?
แอมป์ : "คือต้องบอกว่าเราเคยเป็นคนสูบบุหรี่นะ แต่ว่าที่เราเลิกเพราะว่าลูก เพราะว่าเราอยากมีลูก เพราะผมก็ตั้งไว้อยู่แล้ว การที่เราเจอคนสูบข้างห้อง เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่เขาเปิดแล้วสูบ คือเรามีเด็กไง เรามีลูก คือเราก็อุส่าห์จะไม่ทำอะไรแล้ว เราก็มาเจอแบบนี้เนอะ ยิ่งเป็นคนต่างชาติด้วยมันก็ยิ่งพูดยาก มันก็เป็นการอยู่ร่วมกัน คอนโด มันพูดยาก "
ได้พูดหรือบอกเขาบ้างไหม?
แอมป์ : "3-4 เดือนตลอด ตอนแรกจะแจ้งตำรวจ จนคุยไปคุยมา ก็ส่งจดหมายเตือน ตำรวจก็บอกว่าทำอะไรยากเนาะ แต่ไม่เป็นไร ส่งจดหมายเตือนแล้วก็จบ ทุกวันนี้ก็ดีขึ้นครับ เขาก็น่าจะเข้าใจแหละ เราก็บอกว่าถ้าเราอยู่ร่วมกันต้องช่วยกันหน่อย คือถ้าผมไม่มีลูกเลย ผมก็จะไม่ว่าอะไรเลย แต่อันนี้คือแบบขอร้อง คือคอนโดเวลาเปิดหน้าต่างปุ๊ป ห้องที่มันเหมือนจะไม่มีช่องลมมันก็จะวิ่ง กลิ่นมันก็จะวิ่งทั้งชั้น ก็จบไปด้วยดีนะ คุยกันแบบยิ้มแย้มแจ่มใส"
แบบนี้จะไม่หาที่อยู่ใหม่ใช่ไหม?
แอมป์ : “คือลูกผมจะเรียนโรงเรียนข้างๆ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ย้ายอยู่แล้วครับ เราไม่ได้เช่าอยู่เราซื้อไปให้ลูก แล้วผมก็เตรียมไว้ว่าลูกน่าจะอยู่แถวๆ นี้ ให้เดินไปเรียนสบายๆ ส่วนตัวผมก็อยากอยู่บ้านเหมือนกัน แต่ก็เดี๋ยวต้องรอสักหน่อยนึงช่วงนี้เราต้องหาเงินให้เยอะหน่อยครับ อย่างไรก็ต้องขอฝากทุกท่านด้วยนะครับ รับทุกอย่างนะครับผม”
ขายบิ๊กไบค์ไปแล้วใช่ไหม?
แอมป์ : “ครับ คือที่ขายเนี่ยมันมีเหตุผลเลย คือผมอยากอยู่กับลูกนานๆ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจหรอกว่าคุณพ่อห้ามซื้อมอเตอร์ไซค์ วันนี้เรามีลูกของตัวเองเรารู้แล้วว่าหัวใจของเราคือลูก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราไม่อยากให้ลูกทำเราจะไม่ทำ เพราะว่าพ่อกับแม่คือโลกทั้งใบของเด็ก เพราะฉะนั้นคุณพ่อทำอะไรคุณลูกจะทำตาม แต่ถ้าพ่อไม่ทำอะไรแล้วก็คุยกันด้วยเหตุผล ผมว่าก็เป็นตัวอย่างที่ดีของลูกได้นะครับ คือมันเป็นความฝันนั่นแหละแต่ความฝันมันทิ้งได้ เพราะว่าฝันใหม่ของเรามันสำคัญกว่าฝันที่มันผ่านมาแล้ว ผมกลัวเรื่องอันตรายเป็นหลัก แล้วก็ถ้าสมมติว่าเขาเห็นจนชิน โตขึ้นจะต้องขับมอเตอร์ไซค์แบบป๊าเลย เอาแล้วลูกจะออกไปไหนนะ จะโดนขนหรือเปล่า เราจะบดีก็จริงครับแต่ว่าเราก็ไม่รู้ว่าบนท้องถนนมันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็ไม่อยากให้สูญเสีย เราก็ยอมขายฝันตัวเองครับ
ตั้งใจอยากมีลูกหัวปีกับท้ายปีด้วย?
แอมป์ : “ตอนนี้ผมวางไว้เพราะภรรยาเหนื่อยด้วย แล้วก็จังหวะน่าจะประมาณปี 63-65 ประมาณนี้ครับ อยากได้อีกซักสองคนครับ เพราะว่ามีความคิดว่าสี่คน แต่เบลล์เขาไม่ไหวแน่นอนแค่คนเดียวเขายังบอกพอก่อน ก็จะมีอีกสักสองคนเพราะว่าคือถ้าเราสองคนไม่ยู่บนโลกนี้ อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนคู่คิดเป็นคนในครอบครัวที่คอยช่วยเหลือกัน ทำไมถึงต้องมีสามคนผมมีหลักการคิดแบบนี้ คือเผื่อสองคนรักกันสนิทกันมากชวนกันเที่ยว อีกคนจะได้เป็นกรรมการอย่าไปเลยพ่อดุก็จะมีคนแย้งหน่อย ไม่ใช่ว่าถ้ามีลูกสองคนชอบเที่ยวทั้งคู่เป็นลมแน่ๆ ผมว่าสามคนน่าจะเป็นสามคาแรคเตอร์คิดว่านะครับ การมีลูกทำให้เราเปลี่ยนร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับดีมากเลย ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วพอมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว เราก็มองอนาคตไกลขึ้น ซึ่งปกติเวลาเราหาเงินเราจะมองไม่ไกลมาก 3 ปี 5 ปี อันนี้ผมมองไป 20 ปี คือแค่มองไปว่าควรจะเป็นแบบไหน บางคนก็จะบอกว่าเราไม่รู้อนาคตหรอก พรุ่งนี้ผมอาจจะถูกรางวัล 30 ล้านบาทก็ได้ใครจะรู้ แต่เราไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้มีวันนี้เท่านั้นแหละครับ ที่เราจะสามารถคิดว่าน่าจะก็คือทำวันนี้ให้ดีที่สุดนั่นแหละครับ แต่อย่างไรผมฝากด้วยนะครับ (ยิ้ม) พีรวัศว่างเสมอครับ”
ต้องคูณสามเลยไหม เพราะแพลนถึงอนาคตขนาดนี้?
แอมป์ : “มีหลักการคิดให้ล่าสุดอีกครับ คือหลายคนกลัวว่าการมีลูกจะทำให้เราจนไม่จริงครับ คุณก็คิดว่าคุณต้องหาเงินเพิ่มเพื่อให้ลูกคุณสบาย ถ้าคุณมัวแต่คิดว่าไม่เอาแล้วเราประหยัดดีกว่ามีลูกแค่คนเดียว ค่าเทอมล้านนึงสมมตินะครับ เราจะได้แค่หนึ่งล้านแค่นั้น เราจะไม่ได้เกินนั้นแล้ว แต่ถ้าเราคิดว่าเราจะมีเยอะๆ เรายะคิดปลเวว่าทำอย่างไรนะต้องหาเงินให้มันเยอะขึ้น พอเราหาเงินได้เยอะขึ้นความน้องการเราก็จะเยอะขึ้นครับ เพราะฉะนั้นแล้วต้องคิดให้ไกลแล้วก็ทำให้ให้ได้แค่นั้นเองครับ”