“แสงแรก” ของ 13 หมูป่า หลังพ้นชะตากรรมโหด

2018-07-11 08:30:46

“แสงแรก” ของ 13 หมูป่า หลังพ้นชะตากรรมโหด

Advertisement

สื่อต่างประเทศทุกสำนัก ยังรายงานภารกิจกู้ชีวิต 13 หมูป่า วันสุดท้าย ออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จและความปลอดภัยของทุกคน ด้วยพลังแห่งรักของผู้คนทั่วโลกที่ส่งถึงทีมหมูป่า



ปิดฉากภารกิจที่ยากลำบากและท้าทายที่สุดในโลกลงไปแล้วด้วยความสำเร็จและสวยงาม ท่ามกลางการลุ้นเอาใจช่วยของคนทุกวงการจากทั่วโลก หลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งทีมนักประดาน้ำระดับโลกจากหลายประเทศ และหน่วยซีล แห่งราชนาวีไทย สามารถช่วยเหลือเด็กเยาวชนและผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี จำนวน 13 คน ออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้อย่างปลอดภัย จากการช่วยเหลือ 3 รอบ 3 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ วันที่หมูป่าได้พบแสงสว่างทั้งจากธรรมชาติ และแสงสว่างของชีวิตอีกครั้ง พวกเขาเข้าไปติดอยู่ภายในถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้อังคารที่ 10 กรกฎาคม รวม 18 วัน และวันนี้ ทุกคนอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว

“เราไม่รู้ว่านี่คือสิ่งมหัศจรรย์ หรือวิทยาศาสตร์ หรืออะไรก็ตาม แต่หมูป่าทั้ง 13 ตัวได้ออกมาจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” หน่วยซีล ซึ่งเป็นผู้นำในภารกิจกู้ชีวิต 13 หมูป่าครั้งนี้ โพสต์ข้อความนี้ในหน้าเฟซบุ๊ก หลังภารกิจที่โลกต้องจารึกเสร็จสิ้น และบอกเพิ่มเติมว่า ทุกคนปลอดภัย




สำนักข่าวต่างประเทศทุกสำนัก ยังคงรายงานภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมหมูป่าเมื่อวานนี้ ว่า ทีมหมูป่าชุดสุดท้ายพร้อมโค้ช ได้รับความช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ได้หมดอย่างปลอดภัยแล้ว สิ้นสุดภารกิจสุดหินที่ยาวนานเกือบ 3 สัปดาห์ลงไปได้ ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำระดับโลกจากนานาชาติและเจ้าหน้าที่ของไทย อีกทั้งยังเป็นข่าวดังได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกด้วย เด็กหมูป่าคนที่ 12 และโค้ช คือ 2 คนสุดท้ายที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาเมื่อวานนี้ หลังปฏิบัติภารกิจท้าทาย นาน 3 วันกับการนำทีมหมูป่า 13 คนดำน้ำออกจากถ้ำ

ทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า “Wild Boars” ซึ่งอายุระหว่าง 11-16 ปี และโค้ช อายุ 25 ปี ติดอยู่ในถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะเข้าไปสำรวจถ้ำที่ซับซ้อน แต่ฝนที่เทลงมาอย่างหนักทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมถ้ำ ไม่สามารถออกมาได้ นักประดาน้ำชาวอังกฤษ พบเด็กทั้ง 13 คน ในสภาพหิวโซ นั่งรวมกันอยู่ในความมืดบนพื้นที่พ้นน้ำที่เรียกว่า “เนินนมสาว” ลึกเข้าไปในถ้ำหลายกิโลเมตร เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา



ในช่วง 18 วันที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มต้นการค้นหาโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่น หลังทีมหมูป่า 13 คนสูญหาย จนกลายเป็นปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ที่ยากลำบาก มีผู้เชี่ยวชาญหลายร้อยคน ซึ่งบินมาจากทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง พ่อแม่ของเด็ก ยังคงจุดเทียน อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่นอกถ้ำตั้งแต่ลูกของพวกเขาสูญหาย พร้อมสวดมนต์ภาวนาให้พวกเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย

หลังจากใช้เวลาวางแผนคิดหาวิธีที่จะนำเด็กทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลายวัน ภารกิจกู้ 13 ชีวิตก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พร้อมกับนำหมูป่า 4 คน ออกจากถ้ำได้สำเร็จ ด้วยการผูกเชือกติดกับนักประดาน้ำ ส่วนอีก 4 คนได้รับความช่วยเหลือเมื่อวันจันทร์ และเด็ก 4 คนสุดท้ายพร้อมโค้ชเป็น 5 คน ก็ออกมาจากถ้ำได้เมื่อวานนี้ พร้อมกับหน่วยซีล 4 คน ซึ่งรวมทั้งแพทย์ด้วย 1 คน ที่พักอยู่กับเด็กทีมหมูป่าภายในถ้ำนานหนึ่งสัปดาห์หลังค้นพบตัว ท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนเมื่อเห็นรถพยาบาลวิ่งผ่านและเฮลิคอปเตอร์บินผ่าน

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ ก็ต้องเจือปนด้วยความเศร้ากรณีการเสียชีวิตของ จ่าเอกสมาน กุนัน อดีตซีลแห่งกองทัพเรือของไทย ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติภารกิจอยู่ภายในถ้ำหลวง



นักประดาน้ำ 19 คน ทยอยเข้าไปในถ้ำในเวลา 10.00 น.เมื่อวานนี้ หลายคนเป็นการปฏิบัติภารกิจรอบ 3 ใน 3 วัน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือนำทุกคนที่เหลือออกจากถ้ำให้หมด หน่วยกู้ภัยใช้เวลาทั้งหมด 9 ชั่วโมง จากเวลาที่นักประดาน้ำเข้าไปในถ้ำ จนนำตัวเด็กหมูป่าและโค้ชออกมาได้หมด

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หรือ ศอร. กล่าวกับผู้สื่อข่าวปิดฉากภารกิจกู้ภัย 17 วัน ซึ่งเมื่อเดินมาถึงศูนย์การแพทย์ ก็ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว เขายืนยันว่า แพทย์ 1 คนและนักดำน้ำหน่วยซีล 3 คน ที่อยู่กับเด็กภายในถ้ำ ก็ออกมาพร้อมกันอย่างปลอดภัยแล้ว

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่มีใครคิดว่า เราสามารถทำมันได้ มันเป็นครั้งแรกในโลก นี่คือ “Mission Possible” สำหรับทีมไทย และเพิ่มเติมว่า ฮีโรในเวลานี้ คือผู้คนทั่วโลก ซึ่งหมายถึงทีมนานาชาติ ที่เข้ามาช่วยเหลือภารกิจครั้งนี้

อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทิ้งท้ายว่า “ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จได้ เพราะพวกเรามีพลัง มันคือพลังรัก ที่ทุกคนส่งถึงทีมหมูป่าทั้ง 13 คน”



ส่วนเจ้าหน้าที่ กล่าวว่า รายละเอียดของภารกิจกู้ภัยครั้งนี้ จะมีการเปิดเผยให้ทราบกันในวันนี้