ตำรวจอังกฤษพบชาวอังกฤษ 2 คนที่อยู่ในอาการสาหัส หลังโดนสารไม่ทราบชื่อที่เมืองซาลิสเบอรี ไม่ไกลจากตำแหน่งที่อดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวโดน
ตำรวจเขตวิลต์เชียร์กล่าวว่าในวันพุธว่าผู้ป่วย 2 ราย “กำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลเขตซาลิสเบอรี หลังจากต้องเข้ากับสารไม่ทราบชื่อ” และเสริมว่า “พวกเขาทั้งคู่อยู่ในอาการสาหัส” และตำรวจถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุครั้งใหญ่ ผู้ป่วยทั้งสองเป็นชายและหญิงอายุราว 40 ปี และถูกพบหมดสติที่บ้านในหมู่บ้านอาเมสเบอรีเมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน ห่างจากเมืองซาลิสเบอรีไปราวสิบกว่ากิโลเมตร โดยตำรวจวิลต์เชียร์กล่าวว่าในเบื้องต้นคาดว่าทั้งคู่หมดสติเพราะอาจใช้สารเสพติดเฮโรอีนหรือโคเคน แต่กำลังทำการตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ว่าสารอะไรที่ทำให้ทั้งคู่หมดสติไป โดยพร้อมเปิดรับทุกความเป็นไปได้
ขณะนี้มีการตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณที่ทั้งคู่เดินทางไป ก่อนที่จะไปหมดสติที่บ้าน และมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้นทั้งที่อาเมสเบอรีและซาลิสเบอรี ขณะที่โฆษกหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ (พีเอชอี) กล่าวว่าไม่คิดว่ามีความเสี่ยงด้านสุขภาพต่อประชาชนในวงกว้าง และกำลังประเมินสถานการณ์ต่อไปเมื่อรายละเอียดถูกระบุเพิ่มเติ่ม
ก่อนหน้านี้เซอร์เกย์ สกริปัล อดีตสายลับรัสเซียและและยูเลีย ลูกสาวของเขาหมดสติบนม้านั่งที่เมืองซาลิสเบอรีเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างวิกฤตทางความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอังกฤษและรัสเซีย เมื่อรัฐบาลลอนดอนกล่าวหาว่ารัฐบาลมอสโกใช้สารพิษโนวิช็อกโจมตีทั้งสอง
ขณะนี้ ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายได้เป็นผู้นำการสืบสวนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว หลังจากห้องทดลองของกองทัพ พอร์ตัน ดาวน์ ยืนยันองค์ประกอบของสาร ซึ่งทางการอังกฤษกล่าวว่าเป็นสารทำลายระบบประสาทระดับการทหารของโซเวียต
ด้าน เนล บาซู หัวหน้าตำรวจต่อต้านการก่อการร้าย กล่าวว่า “นี่เป็นสารพิษตัวเดียวกัน แต่การจะบอกว่ามันมาจากล็อตเดียวกันหรือไม่นั้นต้องให้นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ สิ่งสำคัญอันดับต้นๆสำหรับทีมสืบสวนก็คือการตรวจสอบให้ได้ว่าชายและหญิงทั้ง 2 นั้นได้รับสารพิษมาได้อย่างไร” ทั้งนี้ เขากล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานใดๆที่แสดงให้เห็นว่า ผู้เคราะห์ร้าย ทรายชื่อคือ ชาร์ลี โรลลีย์ และ ดอว์น สเตอร์เจส เคยตกเป็นเป้าหมายโจมตี
โดยบาซูกล่าวว่า “ความเป็นไปได้ที่การสืบสวนทั้งสองกรณีนี้อาจจะเชื่อมโยงกัน เป็นคำถามสำคัญสำหรับเรา” อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าชายและหญิง 2 คนนี้ได้เดินทางไปยังสถานที่ที่อาจปนเปื้อนสารจากเหตุการลอบวางยาพิษนายสกริปัล ทำให้ตำรวจคาดว่าการได้รับสารพิษน่าจะมีความเสี่ยงต่ำสำหรับประชาชนทั่วไป
