สนช.ถกร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ 3 วาระรวด

2018-07-04 23:15:05

 สนช.ถกร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ 3 วาระรวด

Advertisement

จับตา สนช. พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม ร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505  3วาระรวดโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 5 ก.ค.

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) แถลงว่า ในวันที่ 5 ก.ค.จะมีการประชุมสนช.เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 3 วาระรวดโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งนี้ จะมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทน ครม. ชี้แจง

ทั้งนี้ เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เผยแพร่สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายดังกล่าวภายหลังจากที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า กรณีที่มีผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์จะเป็นการเพิ่มพระราชภาระของพระมหากษัตริย์โดยไม่สมควรนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บทบัญญัติที่กำหนดให้พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอนสมณศักดิ์ของพระภิกษุในคณะสงฆ์ รวมถึงการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.)นั้น เป็นพระราชอำนาจมาแต่โบราณกาลตามโบราณราชประเพณี ซึ่งรัฐธรรมนูญตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ได้บัญญัติรับรองไว้ว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก กรณีดังกล่าวจึงเป็นพระราชอำนาจที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ มิใช่พระราชภาระที่กำหนดขึ้นเพิ่มแต่ประการใด ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงได้แก้ไขถ้อยคำให้เหมาะสมยิ่งขั้น เพื่อให้เป็นไปตามความมุ่งหมายดังกล่าว




สำหรับความคิดเห็นของพระภิกษุและประชาชนทั่วไปให้ความเห็นว่า ไม่ควรให้นักการเมืองมีอำนาจในการแต่งตั้ง มส.เนื่องจากนักการเมืองอาจใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาแล้วเห็นว่า การกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการเช่นเดียวกับกฎหมายทั่วไปที่ได้กำหนดให้มีบทบัญญัติในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน