ผลเอ็กซิตโพล หลังปิดหีบเลือกตั้งทั่วไป รวมทั้งเลือกตั้งประธานาธิบดี ในเม็กซิโก พบว่าพรรครัฐบาลจะพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี โดยนายอังเดรส์ มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ จากพรรคโมเรนา จะชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่
เม็กซิโกปิดหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความรุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยมีผู้สมัครเลือกตั้งมากกว่า 130 คน ถูกฆ่าตั้งแต่เริ่มการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในเดือนกันยายน ปีที่แล้ว โดยผลสำรวจความคิดเห็นหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพล พบว่า นายอังเดรส์ มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ วัย 64 ปี ตัวเก็งชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี อดีตนายกรัฐมนตรีของกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งให้คำมั่นว่าจะกวาดล้างการคอร์รัปชั่น ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น
จากผลการสำรวจของเอ็กซิตโพล คาดว่า พรรคเนชั่นแนล รีเจเนเรชั่น มูฟเมนต์ หรือโมเรนา ของนายโลเปซ โอบราดอร์ มีแนวโน้มว่าจะชนะการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด ทันทีที่ปิดหีบเลือกตั้ง สำนักโพล คอนซัลตา มิตอฟสกี พบว่า บรรดาผู้สมัครของพรรคโมเรนา จะชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐอย่างน้อย 4 รัฐด้วย คือรัฐเวราครูซ, โมเรลอส, เชียปาส และทาบาสโก อีกทั้งยังคาดว่าจะชนะในตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโก ซิตี้
หลังปิดหีบเลือกตั้งชั่วโมงเดียว ผู้สมัครประธานาธิบดี 3 ใน 4 คน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ต่อนายโลเปซ โอบราดอร์ ตัวเก็งจากพรรคฝ่ายซ้าย ซึ่งให้คำมั่นกวาดล้างการคอร์รัปชั่นและความรุนแรงในประเทศ และไม่ยอมก้มหัวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ
นายโลเปซ โอบราดอร์ จะเป็นประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายคนแรกในรอบหลายสิบปีในเม็กซิโก และให้คำมั่นลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ รัฐบาลชุดปัจจุบันขัดแย้งกับทรัมป์ กรณีการค้าและปัญหาผู้อพยพมานานหลายเดือนแล้ว ซึ่งหากมีการยืนยันผลการเลือกตั้งตามเอ็กซิตโพล จะถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของพรรคพีอาร์ไอ พรรครัฐบาลของรักษาการประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนา เนียโต ที่บริหารประเทศมาตลอด 89 ปี เว้นเพียง 12 ปีเท่านั้น