ผู้ว่าฯเชียงราย แถลงชี้แจงหลากประเด็น ภารกิจค้นหา 13 ชีวิต

2018-07-01 18:50:00

ผู้ว่าฯเชียงราย แถลงชี้แจงหลากประเด็น ภารกิจค้นหา 13 ชีวิต

Advertisement

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย เปิดเผยความคืบหน้ากรณีติดตามหาตัว 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ พร้อมชี้แจงประเด็นต่างๆ อย่างกรณีที่มีกระแสในโลกออนไลน์เรื่องการดูแลหน่วยกู้ภัยจีนที่มาช่วยเหลือว่า ให้รับประทานข้าวเปล่าว่า ไม่มีความขัดแย้งกับทีมกู้ภัยชาวจีนที่มาช่วย เรื่องอาหารการกิน แต่ในทีมชาวจีนมีบางท่านทานมังสวิรัติ ซึ่ง จนท.สามารถจัดการให้ได้ พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกันกับทีมที่เข้ามาช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น และชี้แจงถึงกรณีมีการขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือในการปฎิบัติงานว่า ทางทีมงานไม่มีนโยบายดังกล่าวและได้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่รับบริจาคไปแล้ว 2 ราย ใน 2 จังหวัดคือ ที่เชียงรายและพระนครศรีอยุธยา

ส่วนสื่อมวลชนที่ต้องการจะนำโดรนขึ้นบิน ต้องขออนุญาตก่อนเนื่องจากถ้ำหลวงเป็นพื้นที่ควบคุมการบิน และใกล้ชายแดน อาจจะกระทบความสัมพันธ์ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

ส่วนบุคคลที่ต้องการมาช่วยเหลือ ทางเจ้าหน้าที่ยินดีรับความช่วยเหลือ แต่ไม่มีงบประมาณสนับสนุนค่าเดินทางและที่พัก แต่พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ในการทำงาน อย่างไรก็ตามจะดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในการช่วยเหลือ13คนออกมาอย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด




ด้านพลตรี สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยความคืบหน้าการปฎิบัติงานของทีมค้นหาว่า ขณะนี้การสูบน้ำ มีหน่วยซีลเป็นหัวหน้าทีม และทีมอื่นทำงานร่วมกันมากมาย หน้างานตอนนี้มีมนุษย์กบ 60นาย และใช้โถง 3 เป็นกองบัญชาการภายใน โดยซีลทำงานได้ถึงโถงสามแล้ว และพยายามคืบหน้าไปเรื่อยๆ เลยโถงสามไปถึงจุด 600 เมตร เหลือเพียงอีก 1.1 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย ส่วนพื้นที่บนเขากองทัพได้สำรวจเพิ่ม 2-3 ถ้ำ หาจุดจากการคำนวนเพื่อเจาะให้ตรงกับจุดภายในถ้ำเป็นอีกทางที่ปฎิบัติการอยู่พร้อมส่งทีมขึ้นไปหาโพรงตามเขา จากการแจ้งของชาวบ้านหลายทีม พบว่า มีทีมที่พบโพรงคาดว่าพอเป็นไปได้ 2 โพรง แต่ยังรอความชัดเจนจากทีมสำรวจอีกครั้งในส่วนของ ปภ.ได้จัดทีม เบี่ยงทางน้ำลำธารบริเวณผาหมี เนื่องจากมีน้ำไหลเข้าไป จึงให้เจ้าหน้าที่ติดตั้งท่อเพื่อเบี่ยงน้ำ หลังพบว่ามีลำห้วยบางสายมีโอกาสเป็นทางน้ำที่เชื่อมต่อภายในถ้ำ

ส่วนการระบายน้ำในช่องทางต่างๆนอกจากการสูบน้ำออกจากถ้ำยังมีการขุดเจาะบ่อบาดาลที่เชื่อว่าเชื่อมกับโพรงน้ำของถ้ำหลวงประมาณ3จุด รวมถึงการสูบน้ำที่บริเวณถ้ำทรายทอง ที่เชื่อว่าสายน้ำเชื่อมต่อถ้ำหลวง



ขณะที่ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ. 5 ยืนยันถ้ำหลวง ไม่ใช่พื้นที่สีแดงและไม่ใช่พื้นที่ลำเลียงยาเสพติดแน่นอน

ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลว่าถ้ำหลวงเป็นพื้นที่สีแดงของการลำเลียงยาเสพติด เมื่อปี 2560 มีการจับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติดจริงแต่จับกุมได้ที่บริเวณ ถ.พหลโยธิน มีเส้นทางลำเลียงยาเสพติดมาจาก อ.เชียงแสน ยืนยันว่าไม่ได้มาจากพื้นที่ถ้ำหลวงและถ้ำหลวงไม่ใช่พื้นที่สีแดงแต่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว โดยปัจจุบันกองกำลังผาเมือง ได้เป็นผู้ดูแลพื้นที่นี้อยู่ ส่วนที่มีกระแสว่า ตำรวจตระเวนชายแดน ได้ถอนกำลังหลังลงไปโพรงนั้น พล.ต.ต.ชูรัตน์ ชี้แจงว่า ภารกิจดังกล่าว เมื่อลงไปแล้วเจอทางตัน จึงถอนกำลังขึ้นมา