พระครูนิรมิตวิทยากร วัดป่าดอยแสงธรรมญานสันปันโน เปิดข้อคิดที่ได้จากเหตุการณ์ 13 ชีวิตหมูป่าติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
เฟซบุ๊กพระครูนิรมิตวิทยากร วัดป่าดอยแสงธรรมญานสันปันโน ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความน่าคิดเกี่ยวกับกรณีนักฟุตบอลเยาวชน พลัดหลงในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 มิ.ย.ไว้น่าสนใจ ว่า ถ้าจะวิเคราะห์ตามรูปการณ์ เวลาที่พวกเด็กๆ เข้าไปในถ้ำมันก็ 5 โมงเย็นแล้ว เวลามีไม่มากพอที่จะถือโอกาสเข้าไปเที่ยวในถ้ำลึกๆ ได้ และไม่ได้มีอุปกรณ์เดินถ้ำพกติดตัวไปด้วย มีเพียงของขบเคี้ยวที่ซื้อไปกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ
คงอาจคิดว่าเข้าไปเที่ยวดูอะไรเท่าที่พอจะมองเห็นได้แล้วก็จะกลับออกมา อาจจะมีบางคนในกลุ่มยังไม่เคยเข้าไป เลยอยากไปดู ประกอบกับอาศัยว่าเป็นคนในพื้นที่เคยเข้าไปสำรวจกันมาแล้ว จึงไม่สนใจป้ายห้ามเข้าที่ทางอุทยานติดไว้อยู่หน้าถ้ำ คิดว่าคงติดป้ายไว้อย่างนั้น ไม่ได้ห้ามโดยกวดขัน
ที่จริงปัญหามันเกิดขึ้นเพราะเด็กๆ ฝ่าฝืนข้อห้ามของอุทยานที่ต้องให้เจ้าหน้าที่อุทยานพาเข้าไป และต้องไปในเวลา แต่พูดในเวลานี้มันก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว สังคมจึงมองข้ามจุดนี้ไป แต่ไปโฟกัสที่การช่วยชีวิตของเด็กๆ ซึ่งสำคัญมากกว่าการจะมาตำหนิโทษ ขอให้ช่วยชีวิตเด็กๆ ออกมาให้ได้ก่อน ส่วนการตำหนิโทษนั้นก็ค่อยมาว่ากล่าวกันทีหลัง
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องชี้ให้เห็นโทษของการฝ่าฝืนข้อห้ามซึ่งอาจเป็นเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้อย่างมากมาย ใครๆ ก็จงอย่าได้ถือเอาเป็นเยี่ยงอย่าง นี่! ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่จะต้องทำความเข้าใจกับคนในสังคม มิใช่จะไปยกย่องให้คนกระทำผิดข้อห้าม กลายเป็นฮีโร่ของประเทศอย่างที่ยกยอกันจนเกินกว่าเหตุ
ส่วนเมื่อเด็กๆ เข้าไปในถ้ำแล้วกลับออกมาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องระดมสรรพกำลังเท่าที่มีเพื่อช่วยชีวิตเด็กๆ อย่างเร่งด่วนเพราะมีเวลาจำกัด เนื่องเพราะเด็กๆ อาจขาดอาหารและน้ำ ก็เลยเกิดเป็นมหกรรมกู้ภัยอันยิ่งใหญ่ ที่ท้าทายนักกู้ภัยระดับโลกต่างพากันมาเพื่อร่วมมือกันยื้อแย่งชีวิตของพวกเด็กๆ ให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของพระยามัจจุราชให้จงได้
แต่สังคมก็ไม่ควรลืมความสำคัญของกฎระเบียบ จนถึงกับปล่อยปละละเลย เพราะมันเป็นเหตุที่จะป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง มิฉะนั้น ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซ้ำสอง ซ้ำสาม ซ้ำสี่ ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และกฎระเบียบก็จะหาคนปฏิบัติตามไม่ได้ จะอ้างเอาภาวะฉุกเฉินมาทำลายกฎระเบียบไปเสียทุกสิ่งทุกอย่างหาสมควรไม่