สปท.มีมติเห็นชอบรายงานการปกป้องคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ด้านสารสนเทศของประเทศ หวังปกป้องสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ ให้พ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์
การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เรื่อง การปกป้องคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ด้านสารสนเทศของประเทศ พลอากาศเอก คณิต สุวรรณเนตร ประธานกรรมาธิการกล่าวว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในทุกภาคส่วน แม้กระทั่งโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จัดให้มีบริการสาธารณะแก่ประชาชน ล้วนนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการ ส่งผลให้สังคมไทยในขณะนี้กลายเป็นสังคมที่ใช้บริการระบบดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้น หากประเทศขาดการป้องกัน หรือขาดการดูแลรักษาระบบที่ดี เมื่อถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี อาจส่งผลกระทบต่อประเทศในทุกๆ ด้านได้
สำหรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เป็นการกระทำจากกลุ่มบุคคลที่มีความชำนาญในการปฏิบัติการ แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ภัยคุกคามจากการใช้โปรแกรมประยุกต์ ภัยคุกคามที่เกิดจากการใช้งานเว็บไซต์ ภัยคุกคามจากการใช้งานเครือข่ายไร้สาย ภัยคุกคามที่เกิดจากการถูกโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าประเทศไทย ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินการทั้งด้านนโยบายและมาตรการที่เป็นรูปธรรมและกรอบแนวปฏิบัติที่ดีในระดับสากล เพื่อป้องกันผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยต้องดำเนินการกระตุ้นองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ให้คำนึงถึงการรักษาความมั่นคง ปลอดภัย ของเครือข่ายไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ รวมถึงการสร้างความตระหนักเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และมีเป้าหมายสูงสุดที่ต้องการทำให้การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นวัฒนธรรม พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการจัดตั้งหน่วยงานประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยในหน่วยงานแต่ละกลุ่ม ขณะที่รัฐบาลควรผลักดันร่างกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
ทั้งนี้ นายกษิต ภิรมย์ สมาชิก สปท.เห็นว่ารายงานฉบับนี้ยังไม่ครอบคลุมพียงพอ สำหรับการดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในส่วนของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลเพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการคุกคามทางไซเบอร์เท่านั้น จึงเสนอให้คณะกรรมาธิการทบทวนรายงานทั้งหมดอีกครั้ง
พลตำรวจตรี พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า รายงานฉบับนี้จะเจาะลึกในรายละเอียดของการป้องกันระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมยกตัวอย่างกรณีล่าสุด ที่ประเทศไทยโดนโจมตีจากมัลแวร์ WANNA CRY เนื่องจากผ่านไปกว่า 3 สัปดาห์แล้ว ระบบของหน่วยงานราชการยังถูกโจมตีจากมัลแวร์ตัวนี้อยู่
ทั้งนี้ ที่ประชุม สปท. ได้มีมติเห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เรื่อง การปกป้องคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ด้านสารสนเทศของประเทศ ด้วยคะแนนเห็นด้วย 142 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง