“ซินดี้ สิรินยา” จับมือดารานักแสดง 17 ชีวิต ร่วมรณรงค์พลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ ชวนชมนิทรรศการ 25 มิ.ย.-1 ก.ค.ที่สยามพารากอน และ 4-15 ก.ค.ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร
“ซินดี้” สิรินยา บิชอพ นางแบบ นักแสดงและพิธีกร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกมาทำงานรณรงค์เรื่องสิทธิสตรีมากขึ้น เนื่องจากปัญหาการลวนลามคุกคามทางเพศเป็นปัญหาใหญ่ ล่าสุดได้ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และบริษัทดูดิดดัน ต่อยอดจากแคมเปญที่ผ่านมา สู่การจัดแสดงนิทรรศการ “พลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ" ภายใต้แนวคิด "ชุดที่ใส่ในวันที่ถูกคุกคามทางเพศ” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย.-1 ก.ค.ที่สยามพารากอน และวันที่ 4-15 ก.ค.ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เพื่อต้องการให้คนในสังคมรับรู้ถึงผลกระทบจากปัญหาการลวนลามคุกคามทางเพศ กระตุ้นให้สังคมกลับมาคิด เกิดการตั้งคำถาม ตระหนักไม่ละเมิดสิทธิเนื้อตัวร่างกายผู้อื่น และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง รวมถึงส่งเสียงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ให้เร่งปิดช่องโหว่
“ที่ผ่านมามีเพียงการพูดว่า เป็นหน้าที่ของผู้หญิงที่ต้องป้องกันตัวเองไม่แต่งตัวเซ็กซี่ แทนที่จะพูดถึงหรือตักเตือนฝ่ายชายให้ระวังและไม่ควรลวนลาม ผู้หญิงจะแต่งตัวแบบไหนก็ตาม ผู้ชายก็ไม่มีสิทธิมาถูกเนื้อต้องตัว ดังนั้นอยากให้ทุกคนมาดูมาชมนิทรรศการครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของภูมิภาคเอเชีย โดยมีภาพถ่ายดารานักแสดงที่สื่อความหมายเกี่ยวกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศ กว่า17คน อาทิ เมธินี กิ่งพโยม ตรีชฏา เพชรรัตน์ สินใจ เปล่งพานิช ดาวิกา โฮร์เน่ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนักศึกษามาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การถูกคุกคามทางเพศด้วย” ซินดี้-สิรินยา กล่าว
ด้านนายจะเด็จ เชาวน์วิไล อ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า นิทรรศการครั้งนี้ หลักๆคือต้องการสร้างการรับรู้จากสังคม ว่าปัญหาการข่มขืนคุกคามทางเพศไม่ได้เกิดมาจากการแต่งตัวของผู้หญิง ซึ่งการแต่งตัวโป๊ไม่ได้นำมาสู่การข่มขืน เห็นได้จากเสื้อผ้าที่นำมาจัดแสดง ซึ่งเป็นของผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ คือ ปกปิดมิดชิด ไม่โป๊ แต่ยังถูกข่มขืน คุกคามทางเพศ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ คนทุกเพศทุกวัยมีโอกาสถูกกระทำทั้งสิ้น
“สาเหตุที่แท้จริงของรากลึกปัญหา มาจากความไม่เท่าเทียม ทัศนคติชายเป็นใหญ่ ดังนั้นอยากให้คนในสังคมเข้าใจรับรู้ ปรับเปลี่ยนวิธีคิด รวมถึงต้องการให้คนที่ทำงานด้านนี้ ทั้งศิลปิน ดารา นักแสดง ผู้ที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเป็นกระบอกเสียงส่งผ่านไปสู่สังคมและเกิดการเรียนรู้ร่วมกันผ่านนิทรรศการครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ที่คาดว่าจะสามารถสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่มูลนิธิยังเข้าไปไม่ถึง” นายจะเด็จ กล่าว