โซเชียลถล่ม! “แอมเนสตี้” รวมตัวไว้อาลัยประหารชีวิต

2018-06-19 18:35:55

โซเชียลถล่ม! “แอมเนสตี้” รวมตัวไว้อาลัยประหารชีวิต

Advertisement

ชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด กรณี “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” แสดงพลังยืนไว้อาลัยหน้าเรือนจำบางขวาง เพื่อคัดค้านโทษประหารชีวิต



อีกหนึ่งกระแสร้อน เมื่อ “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” แสดงพลังยืนไว้อาลัยแด่การตัดสินโทษประหารชีวิต หน้าเรือนจำบางขวาง เพื่อคัดค้านโทษประหารชีวิต เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ภายหลังกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ หลงจิ จากคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ที่ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ซึ่งเป็นการลงโทษประหารชีวิตครั้งแรกในรอบเกือบ 9 ปี  










โดย “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” มีจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิตทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญาประเภทใด ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีบุคลิกลักษณะใด หรือไม่ว่าทางการจะใช้วิธีประหารชีวิตแบบใด รวมทั้งงานวิจัยมากมายจากนานาประเทศได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโทษประหารชีวิตไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับการเพิ่มขึ้น หรือลดลงของอาชญากรรม



อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เริ่มเคลื่อนไหวจากกรณีการประหารชีวิตครั้งล่าสุด ก็มีปฏิกิริยาตอบโต้จากฝั่งที่ยังเห็นความจำเป็นของการลงโทษเด็ดขาดเช่นนี้ โดยวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนถึงกลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” ว่าเพราะเหตุใดจึงออกมาปกป้องสิทธิของคนร้ายซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาด พร้อมกับทวงถามถึงความยุติธรรมให้กับเหยื่อและครอบครัว ว่ากลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” เคยให้ความสำคัญกับแง่มุมนี้บ้างหรือไม่ อย่างไร












รวมถึง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดังที่ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวซึ่งมีเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นว่า

“เสียงวิงวอนขอชีวิตของเหยื่อ..ไม่มีใครได้ยิน !แต่เสียงอาชญากร ในแดนประหาร ไม่ต้องวิงวอน ก็มีคน เรียกร้องแทน”



คงต้องถกเถียงและหาข้อสรุปกันอีกยาว สำหรับประเด็นเรื่องการลงโทษด้วยการประหารชีวิตว่ายังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ และเหมาะสมกับสภาพความเป็นไปของสังคมไทยอย่างไร ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าคำตอบสุดท้ายจะเป็นเช่นไร