ผิดจริง! ผอ.โกงอาหารกลางวัน เสนอให้ออกจากราชการแล้ว

2018-06-19 12:40:40

ผิดจริง! ผอ.โกงอาหารกลางวัน เสนอให้ออกจากราชการแล้ว

Advertisement

คืบหน้า ผอ.โกงเงินอาหารกลางวันเด็ก เขต 3 ฟันธงมีมูลความผิดจริง เสนอ กศจ.ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนคดีอาญาจะตามมา ด้าน ผอ.ต้นเรื่องหายเข้ากลีบเมฆ

จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจากคณะกรรมการสถานศึกษา รร.บ้านตานี ต.ตานี อ.ปราสาท ว่า เด็กนักเรียน รร.บ้านตานี จำนวน 242 คน เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6  กำลังได้รับความเดือดร้อน เรื่องไม่มีงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน จึงทำให้ชาวบ้านต้องพากันแก้ปัญหาด้วยการร่วมกันบริจาคเงินและข้าวสาร รวมทั้งของบสนับสนุนช่วยเหลือจากห้างร้านต่างๆรวมไปถึงวัด เพื่อมาหุงหาอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ แทน เริ่มเกิดปัญหามาตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.2561 ที่ผ่านมา หลังจากเปิดเทอมได้เพียง 3 วันเท่านั้น โดยระบุว่า นายภักดิศัย ชูสงค์ ผอ.รร.บ้านตานี ได้เบิกงบประมาณค่าอาหารกลางวันและงบประมาณต่างๆ ของโรงเรียนออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนงบประมาณเหลือไม่กี่พันบาท จากนั้นก็หายหน้าไปและไม่ได้เข้ามาชี้แจงอะไรที่โรงเรียนอีกเลย

ทั้งนี้ในช่วงเปิดเทอมวันแรก เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ผอ.โรงเรียนบ้านตานี มีการประชุมผู้ปกครอง และแจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียน นำบิลเงินสดที่ไปซื้อเสื้อผ้า และอุปกรณ์การเรียนมาเบิกจากทางโรงเรียน คนละ 300 ถึง 360 บาท เมื่อผู้ปกครอง ได้นำบิลมาขอเบิกเงินกับทางโรงเรียน ผอ.รร.บ้านตานี ก็มีการบ่ายเบี่ยง และเลื่อนจ่ายเงิน ไปถึง 3 ครั้ง พร้อมยังสั่งให้เด็กนักเรียนห่อข้าวมากินกลางวันเองอีกด้วย  จนกระทั่ง ผอ.รร.หายหน้าไป จากนั้นชาวบ้าน จึงได้พากันทำหนังสือถึง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 และทางเขตพื้นที่การศึกษา ได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 1 ชุด  เพื่อตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และได้สั่งย้าย ผอ.รร.บ้านตานี เข้าไปช่วยราชการยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 เป็นการด่วน




อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ชาวบ้าน วัดในชุมชน รวมทั้งบริษัทเอกชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันบริจาคข้าวสารและเงินเพื่อมาซื้ออาหารและหุงข้าวให้เด็กๆนักเรียนทั้ง 242 คน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3 ได้มอบเงินจำนวน 2 หมื่นบาท ภาคเอกชนอีก 3 หมื่นบาท เพื่อไว้เป็นทุนในการจัดหาอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน ซึ่งจะช่วยได้ประมาณ 50 วัน และมอบให้ผู้รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน ดำเนินการเรื่องบัญชี อย่างไรก็ตามงบประมาณอาหารกลางวันที่ อบต.ตานีจะโอนให้โรงเรียนนั้น จะแบ่งระยะเวลา 50 วัน ต่อการโอนงบให้ 1 ครั้ง ซึ่งตั้งแต่เปิดเทอมมาคือวันที่ 16 พ.ค.61 เหลือระยะเวลาอีกประมาณ 15 วัน ที่งบประมาณอาหารกลางวันจาก อบต.ตานี จะโอนเข้ามาเป็นปกติอีกครั้ง

ที่ผ่านมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3 ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมในการตรวจสอบบัญชีการเบิกจ่ายที่ผ่านมาด้วย ส่วนเรื่องวินัย ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 3 ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกับนายภักดิศัย ชูสงค์ ผอ.รร.บ้านตานี แล้ว ซึ่งผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จะออกในวันที่ 19 มิ.ย.



ล่าสุดในวันนี้ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นเพื่อติดตามความคืบหน้าผลสรุปดังกล่าว ยัง สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่ง นางภานิชา อินทร์ช้าง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 เปิดเผยว่า ผลการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีเรื่องการจัดอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านตานี ผลสรุปจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้รายงานมา ว่ามีมูลความผิดจริง ก็นำเสนอมา 2 ประเด็นด้วยกันคือ ประเด็นที่ 1.เห็นควรให้มีการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป 2.เพื่อป้องกันปัญหาในเรื่องของการข่มขู่พยาน เรื่องเอกสารและเรื่องต่างๆ จึงเห็นควรว่าควรให้ออกจากราชการไว้ก่อน ประเด็นตรงนี้ เป็นเรื่องที่จะนำเสนอให้ศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเป็นอำนาจของศึกษาธิการจังหวัดต่อไป ได้นำเสนอเข้า อ.กศจ.และเข้า กศจ.เป็นลำดับต่อไป ซึ่งวันนี้ได้ทำหนังสือไปยัง สนง.ศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์แล้ว ส่วนยอดเงินที่หายไป ทางคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่ามีวงเงินค่อนข้างพอประมาณ และมีการเบิกจ่ายหลายครั้ง และไม่มีร่องรอยเอกสารเพียงพอ แต่เป็นยอดเงินในจำนวนที่ค่อนข้างสูง เมื่อการสอบวินัยร้ายแรงมีความชัดเจน เรื่องของคดีอาญาจะต้องตามมาแน่นอน ซึ่งเป็นกระบวนการของคณะกรรมการสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

นางภานิชา อินทร์ช้าง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ ผอ.ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งครั้งแรกให้มาช่วยราชการที่เขต แต่ก็มาลาป่วย 6 วัน ลากิจ 6 วัน และเห็นมาลงชื่อวันที่ 13 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา ซึ่งรักษาราชการ ผอ.เขตในช่วงนั้นก็ให้มีหนังสือใบรับรองแพทย์ เหตุผลที่ลากิจและเหตุจำเป็นมาด้วย แต่ก็ติดต่อไม่ได้จนถึงขณะนี้