หลังกรณีคลิป นศ. จูบก้นกันเพื่อแนะนำตัวกับพี่รหัส ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล ล่าสุดทางสถาบันที่ถูกพาดพิงได้เคลื่อนไหวแล้ว
หลังจากที่กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อเฟซบุ๊กเพจ ANTI SOTUS ได้โพสต์แฉกิจกรรมของ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่รุ่นน้องแนะนำตัวกับรุ่นพี่สายรหัส ด้วยการจูบก้นนักศึกษาอีกคนหนึ่ง โดยเพจดังกล่าวได้โพสต์ข้อความประกอบคลิปว่า
“จูบแผ่นดินหลบไป จูบมิติใหม่แห่งการรับน้อง มาแล้วว
มาต่อกันกับซีรี่ส์ #จูบ ด้วยมิติใหม่ของการแนะนำตัวตามหาสายรหัสด้วยการ #จูบก้น นำเสนอโดย นศ.สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยราชภัฏxxxx
คลิปแปลก พิเรนทร์ๆ แบบนี้จริงมีให้เห็นทุกปี
ไอ้เรื่องแบบนี้เนี่ย จริงๆถ้าจะเป็นพี่รหัสน้องรหัส ดูแลกันจริงๆ ทำไมจะต้องมานั่งตามหา นั่งจีบ นั่งทำอะไรแปลกๆแบบนี้ มันไม่ถูกนะ”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ได้มีความเคลื่อนไหวจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร สถาบันที่ถูกพาดพิงในคลิปดังกล่าวแล้ว โดยนายพัฒนพงษ์ จันทร์ควง คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เเถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการสอบถามรุ่นน้องที่อยู่ในคลิป ซึ่งเป็นนักศึกษาชาย โดยทั้งคู่เป็นพี่น้องฝาเเฝดกัน คิดสนุกจูบก้นกันเอง เพื่อส่งคลิปเป็นการเเนะนำตัวในการขอรับเเอดเฟซบุ๊กรุ่นพี่ปี 2 ในคณะเดียวกัน
ซึ่งการเเนะนำตัวด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ บางคนเต้นหรือร้องเพลงเเนะนำตัวเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการรับเเอดเฟซบุ๊กกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องในสาขาที่คิดขึ้นมาทำกันมาหลายปีเเล้ว เพื่อให้น้องได้ทำกิจกรรมที่น่ารักหรือตลก สนุกสนานในการเเนะนำตัวเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะได้รู้จักกันมากขึ้น เเต่สำหรับคลิปที่เกิดขึ้นเป็นรุ่นน้องที่คิดสนุกกันเอง โดยความคึกคะนองเเละรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยรุ่นพี่ไม่ได้เรียกร้องให้จูบก้นกันเเต่อย่างใด
แต่เมื่อภาพถูกเผยเเพร่ออกไปเกิดความกังวลใจของพ่อเเม่ผู้ปกครอง ทั้งทางมหาวิทยาลัยเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนจึงต้องขอโทษเเละเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เเละขอรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด จากนี้จะมีการดูเเลเรื่องการรับน้องมากยิ่งขึ้น
ยอมรับว่าที่ผ่านมานักศึกษาที่มีจำนวนมาก อาจดูเเลไม่ทั่วถึง โดยหลังจากนี้จะมีตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษเพื่อลงโทษนักศึกษาเเละประชุมเพื่อหามาตรการในการดูเเลการรับน้องให้เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ด้านนักศึกษาชั้นปี1ที่อยู่ในคลิปวิดีโอก็กล่าวว่า ตนขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไปเพราะคิดถึงความสนุกสนานเท่านั้น โดยไม่ได้ถูกรุ่นพี่บังคับเเต่อย่างใด เเละถึงถือเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนเพื่อเตือนสติในการทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น
ขณะที่รุ่นพี่ปี 2 ซึ่งเป็นผู้ที่รับเเอดเฟซบุ๊กกล่าวว่า ตนไม่ได้บังคับน้องให้จูบก้นกัน ซึ่งวิธีการรายงานตัวต่างๆ น้องๆ จะเป็นคนคิดกันเองทั้งหมด เมื่อน้องส่งคลิปวิดีโอมาให้ดู ก็รับเเอดเฟซบุ๊ก และมองว่าตลกเลยให้โพสต์คลิปวิดีโอลงเฟซบุ๊กด้วย ถึงอย่างไรต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย