รุดช่วย 40 ชีวิต! ท่องปากพนัง น้ำทะลักท่วมเรือหวิดอับปาง

2018-06-17 11:50:33

รุดช่วย 40 ชีวิต! ท่องปากพนัง น้ำทะลักท่วมเรือหวิดอับปาง

Advertisement

ตำรวจน้ำรุดช่วยนักท่องเที่ยว 40 ชีวิต หลังเกิดเหตุระทึกน้ำรั่วทะลักเต็มลำเรือท่องเที่ยว หวิดอับปางกลางอ่าวปากพนัง

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา พ.ต.ต. อนุสรณ์ สมุทรกิตติศักดิ์ สว.ส.รน.5 กก.6 กองบังคับการตำรวจน้ำ (ตำรวจน้ำปากพนัง) ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจำนวน 40 ชีวิตที่อยู่ในเรือท่องเที่ยวกลางทะเลอ่าวไทย เนื่องจากเรือท่องเที่ยวเกิดมีน้ำรั่วเข้าเต็มลำเรือ เสี่ยงที่เรือจะอับปางได้ จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ เขต อ.ปากพนัง นำเรือตรวจการณ์เดินทางไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

โดยเรือประมงขนาดกลางซึ่งดัดแปลงเป็นเรือท่องเที่ยวลอยลำอยู่กลางทะเลอ่าวไทย อ่าวปากพนังปลายแหลมตะลุมพุก ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กม. ภายในเรือมีนักท่องเที่ยวทั้งผู้ชาย หญิงและเด็กรวม 40 คนต่างสวมเสื้อชูชีพ เพราะเรือเพียบอย่างหนักเนื่องจากน้ำรั่วเข้าไปในลำเรือจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ประจำเรือพยายามจะสูบน้ำออกอย่างเร่งด่วน ทางตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจจึงนำเครื่องสูบน้ำลงไปติดตั้งเพิ่มเติมทำการสูบน้ำออกจากลำเรือ พร้อมเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวทั้งหมดขึ้นเรือท่องเที่ยวอีกลำหนึ่ง รวมทั้งเรือประมง เรือหางยาวและเรือตำรวจน้ำนำกลับเข้าถึงฝั่งอย่างปลอดภัย




นายนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์ เจ้าของกิจการ “ล่องเรือปากพนัง ส.ภักดี @ ท่าน้ำนนท์” เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุเรือนำเที่ยวได้นำนักท่องเที่ยวรวม 40 ชีวิตล่องเรือเที่ยวชมธรรมชาติตลอดแนวชายฝั่งแหลมตะลุมพุก จนทางกัปตันเรือรู้สึกว่าเรือเพียบผิดปกติ จึงลงไปตรวจสอบท้องเรือพบว่าท่อที่ระบายน้ำเลี้ยงเครื่องยนต์เกิดชำรุดและขาดเนื่องจากแกมรัดเป็นสนิมทำให้น้ำรั่วเข้าลำเรือเป็นจำนวนมาก จนเรือเพียบและติดเนินเลนแล่นต่อไปไม่ได้ จึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจน้ำและหน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจนำเรือตรวจการณ์ไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวระดับน้ำไม่ลึกและมีเรือประมงขนาดเล็กและเรือหางยาวของชาวบ้านออกจับปลาอยู่เป็นจำนวนมาก หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถประสานขอความช่วยเหลือได้ทันที ประกอบกับมีเรือท่องเที่ยวอีกลำหนึ่งล่องมาคู่กัน โดยทั้งเรือท่องเที่ยวและเรือประมงของชาวบ้านได้เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาทและความปลอดภัยสูงสุดของนักท่องเที่ยวทางกัปตันได้แจ้งประสานตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยประชาร่วมใจออกไปช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก ตนได้กำชับให้กัปตันและพนักงานประจำเรือท่องเที่ยวตรวจสอบเครื่องยนต์ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ และอุปกรณ์ชูชีพในเรือให้พร้อมและได้มาตรฐานกว่าเดิม” นายนนทิวรรธน์ กล่าวในที่สุด