ซีเนดีน ซีดาน เป็นหนึ่งบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในฐานะนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสและผู้จัดการทีมฟุตบอล แต่ถ้าให้พูดถึง ซีดาน กับการแข่งขันฟุตบอลโลกแล้ว เราคงนึกถึงเหตุการณ์ช็อกสนาม ที่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศระหว่าง ฝรั่งเศส พบกับ อิตาลี ในฟุตบอลโลก ปี 2006 ที่เยอรมนี โดยในวันนั้น ซีดานทำเฮดบัตต์ใส่ มาร์โก มาเตรัซซี กองหลังทีมชาติอิตาลี จนถูกใบแดงออกจากสนามไป และกลายเป็นหนึ่งเหตุผลที่ส่งให้ อิตาลี เอาชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ปีนั้นไปครองได้สำเร็จ
ฟุตบอลโลกตลอด 20 ครั้งที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่กลายเป็นเรื่อง ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาว์น มากมาย สีสันฟุตบอลโลกวันนี้ จึงอยากพาท่านผู้ชมทุกท่าน ย้อนเวลากลับไปดูเรื่องราวเล่านั้นกันว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ย้อนกลับไปในปี 1986 ฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก ที่นักเตะร่างเล็กอย่าง ดิเอโก้ มาราโดนา พาทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ปีนั้นได้สำเร็จ แต่เหตการณ์ที่ทำให้แฟนบอลจดจำชื่อของมาราโดนา ได้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “แฮนด์ ออฟ ก็อด” ที่มาราโดนาใช้มือปัดฟุตบอลเข้าประตู ในเกมที่อาร์เจนตินา ชนะ อังกฤษ 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
พูดถึงการแข่งระหว่างชาติอังกฤษกับอาร์เจนตินา ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ เดวิด เบคแฮม นักเตะคนสำคัญของทีมสิงโตคำราม ออกมายอมรับว่า การพบกับ อาร์เจนตินา ในฟุตบอลโลก ปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส รอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นจุดต่ำสุดในชีวิตการเป็นนักเตะเขา โดยในการแข่งขันวันนั้น เดวิด เบคแฮม เกิดอาการหัวร้อนจนไปเล่นนอกเกมใส่ ดิเอโก้ ซิเมโอเน กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นเหตุให้ต้องถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม แม้เกมนั้นผู้เล่น 10 คน ของทีมชาติอังกฤษจะยันเสมอเอาไว้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไป หลังพ่ายในการดวลลูกจุดโทษในที่สุด
ส่วนนักเตะอีกคนที่มีเรื่องอื้อฉาวในการแข่งฟุตบอลโลก ก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้าดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ที่ใช้ฟันกัดใส่ ไหล่ของ จอร์โจ คิเอลลินี ปราการหลังทีมชาติอิตาลี ซึ่งแม้ท้ายที่สุด อุรุกวัยจะเอาชนะ อิตาลีไปได้ 1-0 และซัวเรซไม่ได้ถูกลงโทษในการแข่งขันนัดนั้น แต่ท้ ฟีฟ่า สั่งลงโทษย้อนหลังอยู่ดี โดนแบน ซัวเรซ ห้ามลงเล่นทีมชาติ 9 นัด ไม่ยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมต่างๆ ของวงการฟุตบอลเป็นเวลา 4 เดือน และปรับเงินอีกกว่า 82,000 ยูโร (ราว 370,000 บาท)
ต่อกันที่ทีมยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังอย่าง ทีมชาติบราซิล กันบ้าง โดยในปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ คงไม่มีใครคาดคิดว่า ทีมฟุตบอลที่มีนักเตะชื่อดังมากมาย จะถูกยิงถล่มยับเยินในการแข่งขันที่สนามบ้านเกิดของตนเอง
โดยในรอบรองชนะเลิศ บราซิล ในฐานะเจ้าภาพ ต้องพบกับทีมเต็งอย่าง เยอรมนี เกมวันนั้น บราซิลขาดผู้เล่นสำคัญ ทั้ง เนย์มาร์ และ ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังกัปตันทีมชาติบราซิลด้วย แต่พอเริ่มเกมไปได้ 11 นาที เยอรมนี ก็เปิดฉากยิงประตูได้ก่อน โดยลูกยิงของโทมัส มูลเลอร์ ก่อนจะต่อด้วย มิโรสลาฟ โคลเซ, โทนี โครส, ซามี เคดีรา และอันเดร เชือร์เล รวมทั้งหมด 7 ประตู แม้ว่าสุดท้าย ออสการ์ จะมายิงตีไข่แตกให้บราซิลได้ในนาทีที่ 90 แต่ผลการแข่งขัน 1-7 ก็มากพอที่จะสร้างประวัติศาสตร์การแพ้ยับเยินที่สุดในรอบ 94 ปี ของวงการฟุตบอลบราซิล นับตั้งแต่การพ่ายแพ้ต่อ ทีมชาติอุรุกวัย 0-6 ในศึกโคปาอเมริกา ปี 1920
ในฟุตบอลโลกครั้งที่ 21 ที่ประเทศรัสเชีย กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนี้ แม้เราจะไม่รู้จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง แต่ท่านผู้ชมสามารถติดตามความเคลื่อนไหวตลอดการแข่งขันได้ที่ สีสันฟุตบอลโลก ทางช่อง newtv 108