เดินหน้าเอาผิดเต็มที่... "หมอโอ๊ค-โอปอล์ "แจ้งความเอาผิดเพจลดน้ำหนักนำภาพไปตัดต่อ

2018-06-05 09:50:02

เดินหน้าเอาผิดเต็มที่... "หมอโอ๊ค-โอปอล์ "แจ้งความเอาผิดเพจลดน้ำหนักนำภาพไปตัดต่อ

Advertisement

เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน. ทองหล่อ พร้อมทนายความสาวนตัวแล้วสำหรับ "โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล" และ "หมอโอ๊ค-นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล หลังโดนตัดต่อนำภาพของทั้งสองมาสวมทับบนสินค้าลดน้ำหนักแบรนด์หนึ่งจนหมอโอ๊คต้องขึ้นเตือนไปครั้งหนึ่งแล้วบนอินสตาแกรม แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งทางด้านหมอโอ๊คได้เผยถึงเหตุการณ์นี้ว่า




ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา มีเฟซบุ๊กแอคเคาท์นึง โพสต์ข้อความขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ซึ่งเราทั้งสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในโพสต์มีการใช้ภาพผมและชื่อนามสกุลจริง รวมถึงตำแหน่งนายแพทย์นำมาประกอบการขาย ใช้คำพูดยืนยัน แอบอ้างรูป โดยอ้างว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของผม เพื่อย้ำความมั่นใจให้กับของเขาเอง รวมไปถึงเพื่อนเราที่หลงเชื่อ ซื้อสินค้านี้ไปจริง ส่งข้อความมาสอบถามผมว่าเป็นเรื่องจริงไหมแสดงว่ามีการซื้อขายจริง เราเลยไม่อยากนิ่งนอนใจ หลังจากนั้นเลยค้นหารูปภาพที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ ก็จะเห็นชัดเจนว่ามีการตัดต่อเกิดขึ้น หลายคนอาจจะสงสัย คือภาพเป็นภาพวันที่ผมเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊ก แต่เขาเอาผลิตภัณฑ์ไปซ้อนภาพ รวมถึงเอารูปต้นฉบับมาตัดต่อแล้วเอาผลิตภัณฑ์ไปวางไว้บนโต๊ะ คือเขามีการทำที่มืออาชีพ มีการใส่เงาด้วย คือมีหลายคนที่เป็นผู้เสียหาย ผู้สูงอายุบางท่านไม่ทราบว่าตัดต่อแบบนี้ได้ ถึงเราจะลงตักเตือนไปแล้ว แต่ก็ยังมีภาพเราลงขึ้นมาแทบทุกชั่วโมง แม้แต่รายการโทรทัศน์ก็โดนเอาผลิตภัณฑ์ตัดต่อใส่ลงไป ยิ่งมีการใช้เสื้อกาวน์แพทย์ เป็นสิ่งที่ผมยอมรับไม่ได้จริงๆ เพราะในกฏระเบียบของแพทย์ เราไม่สามารถสวมเสื้อกาวน์เพื่อเป็นตัวแทนให้กับผลิตภัณฑ์หรือรับรองอะไรได้ทั้งสิ้น แม้แต่ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เราก็ระมัดระวังอย่างยิ่ง ตอนแรกผมเห็นภาพเดียวก็นึกว่าอาจจะเป็นความเข้าใจผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เลยแค่ลงตักเตือนแต่เขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กลับผลิตรูปใหม่เรื่อยๆ พอผมกดรีพอร์ตเพจ เขาก็มีการรีพอร์ตเพจผมเองกลับว่าเพจผมเป็นเพจตัวปลอม สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือเป็นมิจฉาชีพที่เป็นมืออาชีพ เราเลยตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยภาพ คือเขาใช้คำว่าต้องขอบคุณนายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล ที่ได้ผลิตผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา






ด้านโอปอล์ได้เผยถึงกระบวนการเอาผิดบุคคลที่แอบอ้างในครั้งนี้ว่า
ตามขั้นตอนวันนี้เรามาพบท่านสารวัตรและท่านรับแจ้งความ หลังจากขั้นตอนนี้ เท่าที่เราคุยกันคือเราจะไปที่ ปอท. ส่วนวันไหนเดี๋ยวเรานัดหมายแล้วไปตามสเต็ป



มีอีเมล์แปลกๆ ส่งมาด้วย?
โอปอล์:
ก่อนหน้านี้เพื่อนที่เป็นนักข่าวก็โดนคือนั่งอ่านข่าวแต่มีโลโก้ผลิตภัณฑ์นั้นอยู่ เรายังนั่งขำกับเพื่อนอยู่เลยว่าตลกมาก แต่พอมันเกิดกับเรามันไม่ตลกแล้วเพราะตอนแรกที่เห็นรูปพี่โอ๊คคือพีคมากและดันมีคนเชื่อจริงๆ มีคนสั่งซื้อจริงๆ มีคนอีเมล์มาต่อว่าเยอะ ว่าทำไมขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ตอนแรกเราก็งงว่าขายอะไร ปอล์กับพี่โอ๊คเลยคุยกันว่ามีคนโดนตัดต่อแบบเราเยอะมาก แต่คนที่โดนกระทำแบบพวกเรา ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ลองมาลุยดูเพื่อเป็นต้นแบบว่าทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะถ้าคนที่ซื้อกินหรือใช้มันเกิดเป็นอะไร เราจะทำยังไง เราคงเสียใจเลยอยากบอกทุกคนว่าเราไม่เกี่ยวข้อง คือมันมีข้อสังเกตเยอะ นอกจากการตัดต่อที่ไม่เนียน การใช้ภาษาอีก ถ้าอันไหนเป็นของเรามันจะปรากฏในไอจีและเฟซบุ๊กเราสองคน ถามว่าคิดว่าคนตัดต่อเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ถ้าทางกฏหมายเมื่อสักครู่ที่คุยกับท่านสารวัตร ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศ เราสามารถเอาผิดได้ทั้งหมด




หมอโอ๊ค: ในพรบ.คอมพิวเตอร์ ใหม่คือ ไม่ว่าจะใครก็ตาม ถ้ามีการโพสต์แล้วเกิดความเสียหายในประเทศไทย ก็สามารถดำเนินคดีได้ครับ วันนี้ที่เราตั้งใจมาคือมี 2 ประเด็น อย่างแรกคือผลิตภัณฑ์เหล่านี้เราไม่เกี่ยวข้อง อาจจะเกิดอันตรายได้ถ้าหากมีคนนำไปใช้ อย่างที่สองสำคัญมากๆ คืออยากให้เป็นบรรทัดฐานว่า ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเรา อย่าละเลยครับ เพราะสิ่งที่ผมเจ็บปวดที่สุด ผมมองไปในหลายๆ คอมเมนท์ หลายท่านยังขาดความเข้าใจ บางท่านบอกว่ายังไงก็เอาผิดไม่ได้อยู่แล้ว ให้ปล่อยไปเลย บางคนบอกทำไปเถอะคนไทยขี้เกียจ ไม่อ่านหนังสือเยอะ ยังไงก็ซื้อหรือคนที่โดนแอบอ้างก็ขี้เกียจไม่ทำอะไรหรอก ผมอยากบอกว่าคนไทยไม่ได้ง่ายขนาดนี้ ต้องขอบคุณหลายท่านที่ติดต่อมา ให้หลักฐานและให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน



โอปอล์: ตั้งแต่อยู่กับพี่โอ๊คมา ไม่เคยเห็นเขาโมโหได้ด้วยประเด็นไหน แต่พอเป็นเรื่องนี้ปุ๊บเรารู้เรื่องว่าแตะประเด็นเซนซิทีฟพี่โอ๊คเยอะมาก เพราะเขาจะไม่ทำอะไรที่ส่งผลเสียกับใครแน่ๆ และเอารูปเขาในชุดเสื้อกาวน์ไปใช้อวดอ้าง ซึ่งพี่โอ๊คไม่ทำ ที่สำคัญดันมีคนเชื่อและโทรไปหาพี่โอ๊คที่คลินิก คือเขากำลังใช้ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือมาล้อเล่นกับคนอื่น หลายคนที่ดูถูกกระบวนการยุติธรรม เมื่อสักครู่คุยกับคุณตำรวจ คือจริงๆ มันเช็กเส้นทางของอินเตอร์เน็ตได้หมดเลยนะ ถ้าใครเป็นผู้เสียหายของเพจนี้ แจ้งความเถอะค่ะ เราคิดว่าครั้งนี้อย่างน้อยน่าจะมีคนไทยร่วมด้วย




มีอินบ๊อกซ์ไปถามคนทำไหม?
หมอโอ๊ค: เขาไม่รับเลยครับ เขารีพอร์ตเรา เขาเป็นมืออาชีพมากก็ไม่แปลกที่มีคนหลงเชื่อมาก เพราะมีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนข้อความ เอารูปมาแอบอ้าง และมีการซื้อสปอร์นเซอร์อย่างเป็นทางการในเฟซบุ๊ก รันตลอดเวลาน่าจะด้วยเงินค่อนข้างเยอะ รู้สึกว่าเป็นกระบวนการและธุรกิจที่ใหญ่
โอปอล์: ส่วนวิธีระวังมันมีหลายอัน อะไรที่เป็นการอวดอ้างที่เกินจริง เราต้องระวังแล้ว เพราะอย่างอันนี้เราค่อนข้างตกใจ เพราะเขาอวดอ้างว่าขายได้ 30 วัน 2,100 ล้านบาท หรือที่อวดอ้างว่าแปะหน้าท้อง 7 วันหน้าท้องแบนราบ
หมอโอ๊ค: การลดน้ำหนักไม่เคยมีทางลัด แต่สิ่งช่วยที่ดีที่สุดคือพฤติกรรมของเรา การออกกำลังกาย ขอยืนยันไม่นั้นคนก็ผอมกันหมดแล้ว