ลูกจ้าง รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ หนองคาย เดินทางเข้ากรุงเทพ หวังยื่นหนังสือคัดค้านกระทรวงการคลังออกระเบียบห้ามจ้าง ห้ามขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง ขณะที่ ผอ.โรงพยาบาล วอนขอรัฐบาลเร่งทบทวน หวั่นกระทบการบริการประชาชน ทำระบบบริการย้อนกลับไปล่าช้าเหมือนอดีต แม้ปลัดกระทรวงบอกยังจ้างได้ในรอบปีงบประมาณใหม่ แต่เกิดคำถามต่อ จ้างได้แบบไหน
ความเคลื่อนไหวของการคัดค้านกระทรวงการคลังที่ออกกฎระเบียบใหม่ในการจ้างลูกจ้าง 2 ประเด็นหลัก คือ การห้ามจ้างลูกจ้างเพิ่มเติมและการห้ามขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง ซึ่งทำให้ลูกจ้างของหลายกระทรวงจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของ รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย ในเช้าวันนี้ (31 พ.ค.61) ได้มีลูกจ้างของ รพ.ต่าง ๆ ใน จ.หนองคายเดินทางด้วยรถตู้ไปยังกรุงเทพฯ สมทบกับลูกจ้าง รพ.ทั่วประเทศเพื่อจะไปยื่นหนังสือคัดค้านการออกกฎระเบียบดังกล่าว
นพ.วัฒนา พารีศรี ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ กล่าวว่า ระเบียบใหม่ของกระทรวงการคลังนี้จะกระทบกับขวัญและกำลังใจของลูกจ้างเป็นอย่างมาก เพราะทำจนตายก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม ต้องมองย้อนกลับไปว่า เหตุใดจึงต้องจ้างลูกจ้าง นั่นเพราะรัฐบาลจำกัดตำแหน่งข้าราชการ แต่งานการบริการประชาชนใน รพ.นับวันมีแต่เพิ่มมากขึ้น ต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก จึงต้องใช้เงินนอกงบประมาณมาจัดสรรเป็นเงินค่าจ้างสำหรับลูกจ้าง ระเบียบนี้ประกาศใช้ในอนาคตหากลูกจ้างต้องลาออก ป่วยตาย หรือมีเหตุอะไรก็ตามตำแหน่งนั้นก็ต้องยุบไป ทำให้กระทบกับจำนวนลูกจ้างที่ให้บริการผู้ป่วย ทาง รพ.ก็ต้องลดภารกิจลง และอาจจะต้องย้อนกลับไปเป็นเหมือนโรงพยาบาลในอดีตที่ให้บริการประชาชนไม่ครอบคลุม เกิดความไม่พึงพอใจขึ้น จนมีฉายาว่า เป็นโรงพยาบาลฆ่าสัตว์ แม้ว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาบอกว่า ในวันที่ 1 ต.ค.61 ปีงบประมาณใหม่จะยังคงจ้างลูกจ้างได้ แต่ก็เกิดคำถามตามมาว่า จะจ้างได้แบบไหน เพราะไม่มีความชัดเจน ในระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ข้อ 10 ที่ระบุว่าการจ้างลูกจ้างต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง ต้องยกเลิกกฎข้อนี้ เนื่องจากกระทรวงการคลังไม่สามารถมาพิจารณาลูกจ้างหลายแสนคนได้ขนาดนั้นแน่ พร้อมกันนี้อยากให้รัฐบาลเร่งทบทวน ขอให้เปิดใจและเปิดประตูรับหนังสือข้อเรียกร้องของบรรดาลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขที่จะไปยื่นหนังสือด้วย เพราะไม่ได้ไปรวมตัวกันเรื่องการเมือง
