หลังจากเกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์ในบ้านของดาราสาว "นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา" หรือ "อาอีซะห์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา" ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง ได้จับกุมตัวสาวประเภท 2 ที่ก่อเหตุพร้อมของกลางเป็นเงินสดและกระเป๋าแบรนด์เนมมูลค่านับล้านบาท โดยผู้ต้องหายอมรับว่าการก่อเหตุในครั้งนี้เพื่อนำเงินไปทำศัลยกรรม และทางด้านนุ๊กได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
รู้สึกจะเป็นบ้านที่โชคดีที่สุดที่ได้ของคืนทุกอย่างรวมทั้งเงินที่อยู่ในกระเป๋า จากที่ตอนแรกเราคิดว่ากระเป๋าแค่ 3ใบ แต่นั่งนับไปมามันทั้งหมด 13-14 ใบ คือมันค่อยๆ จำได้ทีละใบๆ ค่ะ วันแรกเรายังตกใจอยู่ เพราะเป็นใบที่เราคุ้นๆตา แต่พอทยอยๆนึกใบนั้นก็หายใบนี้ก็หาย เชื่อไหมว่าไม่ได้สนใจของเลย คือเราไม่ได้ให้ค่ากับของเลยจริงๆเพราะไม่ค่อยได้ใช้ พวกกระเป๋าแบรนด์เนมเพื่อนๆจะรู้ว่าเราไม่เคยถืออยู่แล้วก็เลยไม่ได้ให้ค่ากับมัน
วันนี้ก็รู้สึกเครียด เพราะต้องเข้าไปนั่งกับผู้ต้องหาในนั้น สงสารเขาเนอะและก็สงสารบ้านอื่นด้วยที่เขาโดนหนัก เพราะเป็นของรักของเขา อย่างเราไม่ใช่ของรักเพราะเป็นของนอกกาย อย่างบางบ้านเขาสะสมนาฬิกามาพอเขารู้เขาก็โกรธมาก อย่างผู้ต้องหาที่เราฟังมาคือเขาเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เขาก็ร้องไห้ไม่หยุดเราก็สงสารน้อง อย่างที่รู้โทษมันแรงตั้ง 5-6 ปี แล้วเขาขึ้น 5 หลัง ถึงเขาสารภาพลดโทษครึ่งนึงมันก็ยังแรง มันทำให้เรารู้ว่าอย่างแรกเลยกลับมาเนี่ยเราต้องคำนึงถึงอะไร บ้านเราอยู่ตรงไหนต้องมีเบอร์โทร. สน. นั้นเลย ยุคนี้โจรมันเยอะ จะพึ่งตำรวจอย่างเดียวมันไม่ได้ค่ะ เราต้องดูแลบ้านเราด้วย อย่างติดกล้องวงจรปิดหรือทำประกันในเรื่องความปลอดภัยให้ครบจริงๆ ตอนนี้ก็คือติดกล้องวงจรปิดใหม่ เพราะของเก่ามันพัง ก็คงเป็นเพราะความชะล่าใจเพราะต้องทำยิมไปด้วยค่ะ
และนุ๊กได้กล่าวต่ออีกว่า....
ถามว่ายังผวากับเหตุการณ์นี้ไหมคือมันไล่ๆไปทีละสเต็ปค่ะ ตอนแรกตกใจ พอหันไปเห็นลูกเราก็ตัวสั่นเราก็ต้องตั้งสติ แต่มันก็ยังกลัวๆ อยู่นะคะ แต่พอตั้งหลักได้มันกลายเป็นความโกรธว่าเข้ามาในบ้านเราได้ยังไง ถ้าไม่มีลูกก็คงต้องเข้าไปค้นเอง แต่สุดท้ายเมื่อความโกรธหายไปมันก็กลายเป็นความรู้สึกสงสารค่ะ
ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าเป็นผู้ชายเราก็กลัว แต่พอเป็นสาวสองความกลัวมันหายไป ยิ่งพอไปเจอเขาเราสงสารเขาจริงๆ เลยมองย้อนกลับมาที่ครอบครัวเราถ้าเกิดลูกเราขโมยของเราเรายังให้อภัยได้ แต่ถ้าลูกเราไปขโมยของใครแล้วมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คิดว่ามันเล็กๆ อยากเอาเงินไปศัลยกรรม แต่ผลที่ตามมามันมหาศาล
เราก็เข้าไปกอดเขา เขาก็บอกเขาขอโทษ เราก็บอกว่าเชื่อไหมเราไม่เสียดายของเลย แต่ฉันเสียดายชีวิตเธอ ทำไมถึงใช้ชีวิตแบบนี้ เราให้อภัยไม่โกรธ พลาดแล้วก็ต้องเข้มแข็งแล้วอย่าทำแบบนี้อีกนะ เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นบ้านเราถ้ารู้เขาก็จะไม่ทำ เราก็บอกทำบ้านไหนน้องก็ติดคุกนะคะ
เชื่อไหมว่าเราเห็นภาพเขาโดนจับเรารู้สึกเสียใจไปกับเขาอ่ะ เพราะสภาพห้องเขานอนห้องแอร์ ชีวิตก็ไม่ได้ลำบากว่าจะมางัดบ้านคนหรือขโมยของซึ่งเขาก็ร้องไห้มาก เราก็บอกว่าต้องทำใจชีวิตเรามันไม่มีใครทำลายได้เท่าตัวเราแล้วหล่ะ เข้านะว่าชีวิตมันลำบากแต่ทำไมทำให้มันแย่ไปกว่านี้ ก็บอกให้เขาเข้มแข็ง สุดท้ายก็ขอบคุณตำรวจทุกๆ ท่านนะคะ ขอบคุณ สน.วังทองหลาง และเป็นกำลังใจให้เพื่อนบ้านที่ของหายด้วยนะคะ และฝากถึงประชาชนด้วยว่าคือตำรวจก็มีไว้พึ่งได้ แต่ต้องพึ่งตัวเองด้วยและดูแลบ้านของตัวเองให้ดี และถ้ารู้ว่ามีโจรอยู่ในบ้านก็อย่าไปลุยเองเลยให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้งก่อนค่ะ
