เจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์วัดดังแจงเหตุอูฐงับศีรษะเด็ก ว่าน่าจะเกิดจากการยืนหันหลังเชลฟี่พร้อมเตรียมสร้างรั้วตาข่ายให้สูงขึ้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Achraporn Pawangkapin เผยแพร่ภาพและข้อความเหตุอูฐวัดบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม งับศีรษะเป็นแผลบริเวณขมับและหลังหูนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในวัดบางกุ้ง พร้อมด้วยนายณัฐภัทร์ เอมอ่อน นายอำเภอบางคนที พบสัตว์ป่าที่ทางวัดบางกุ้งนำมาเลี้ยงไว้ประมาณ 10 ชนิด เช่น แพะ, แกะ, จระเข้, กวางดาว, หมูป่า, อีเห็น, นกยุง,ม้า และอูฐ เป็นต้น
โดย นายสมศักดิ์ แซ่โค้ว ผู้ดูแลวัดบางกุ้ง (เสื้อยืดสีฟ้า) บอกว่าสัตว์ทุกชนิดในสวนสัตว์แห่งนี้มีใบอนุญาตทุกตัว ส่วนอูฐตัวนี้ซึ่งเป็นตัวผู้ทางวัดนำมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่อายุแค่ 8-9 เดือน และตั้งชื่อ" เด๋า เด๋า" ปัจจุบันอายุ 9 ปีแล้วนิสัยไม่ดุร้ายและไม่เคยมีพฤติกรรมกัดใคร ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่มาให้อาหารมักจะถ่ายภาพขณะให้อาหารอูฐซึ่งต้องยืนหันหน้าเข้าหาอูฐ แต่บางรายต้องการภาพที่สวยงามในลักษณะเซลฟี่ จึงยืนหันหลังให้อูฐพร้อมกับส่งผักบุ้งให้อูฐกิน บางรายเมื่อยังไม่ได้ภาพที่ถูกใจก็จะชักผักบุ้งกลับทำให้อูฐเกิดความสับสน ขณะที่คนที่เซลฟี่ก็อยู่ในลักษณะหันหลังให้จึงมองไม่เห็นอูฐเข้ามาใกล้จนงับศีรษะได้
ทั้งนี้ตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่คอยเตือนหากเห็นว่าคนให้อาหารขาดความระมัดระวัง แต่กรณีเด็กที่ถูกอูฐกัดศีรษะรายนี้ ผู้ดูแลอาจไม่ทันเห็นเพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังจากถูกอูฐกัด เด็กคนนี้ก็ออกจากวัดไปหาหมอทันที และยังไม่ได้ติดต่อกลับมา ทางวัดจึงไม่ทราบถึงอาการแต่หากมีค่ารักษาพยาบาลทางวัดก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ
ด้านนางสาววันเพ็ญ พวังคะพินธ์ ซึ่งเป็นป้าของผู้เสียหาย บอกว่าอยากให้ทางวัดสร้างรั้วตาข่ายให้สูงขึ้นเพื่อไม่ให้อูฐเอาหัวยื่นออกมากินอาหารได้ แต่ให้ทำช่องเล็กๆพอให้อาหารได้ อูฐจะได้ไม่ยื่นหัวออกมาจนเป็นอันตรายกับคนให้อาหาร
ขณะที่นายสมศักดิ์ บอกว่าเมื่อเกิดเหตุนี้ ทางวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ จะได้สร้างรั้วตาข่ายให้สูงขึ้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาให้อาหารสัตว์ที่เลี้ยงไว้ทุกกรง โดยเพาะอูฐซึ่งคอยาวจะทำกรงให้สูงเป็นพิเศษ